10 แฟชั่นอาหารแปลกใหม่ที่ส่วนใหญ่เลิกฮิตกันไปแล้ว
พูดถึงกระแสอาหาร มันก็เหมือนกับเทรนด์แฟชั่นที่มาแล้วก็ไปไม่ต่างกัน และเราก็รับรู้กันดี เมื่อลองจินตนาการว่าอาหารชนิดหนึ่งกำลังเป็นที่นิยมจนอยู่ในทุกเมนูทั่วโลก แต่นั่นแหละคือเสน่ห์ของกระแสอาหารยุคใหม่ที่เกิดจากอิทธิพลของโซเชียลมีเดียเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ว่าจะว่าไปแล้วกระแสอาหารมีมาก่อนสื่อโซเชียลมานานหลายสิบปี ในบทความนี้เราจะเจาะลึกถึงเรื่องราวที่น่าสนใจของ 10 แฟชั่นอาหารที่เคยเกิดขึ้น และเราอาจสงสัยว่าทำไมถึงเคยฮิต นักอ่านจะรู้สึกหิวขณะอ่าน เพราะฉะนั้นควรเตรียมของว่างไว้ข้างตัว!
Syllabub (1750s)
เริ่มต้นด้วยการย้อนไปยังช่วงกลางศตวรรษที่ 18 ในวิลเลียมสเบิร์ก รัฐเวอร์จิเนีย คนยุคนี้นิยมกินของหวานหลังอาหารเย็นที่เรียกว่า syllabub การทำ syllabub ต้องใช้ไวน์, กรดอ่อน และครีมเข้มข้น โดยจะใช้เลมอนเป็นกรด เติมน้ำตาลลงไปเล็กน้อยแล้วใส่ไวน์ Rheinisch เริ่มต้นด้วยครีมในชาม ตีด้วยมือจนหนาขึ้น จากนั้นเติมส่วนผสมอื่น ๆ ลงไปแล้วคนต่อจนได้เนื้อที่ข้นขึ้น จากนั้นเทใส่แก้วเล็ก ๆ และปล่อยให้ตั้งในที่เย็นข้ามคืน แม้ช่วงนั้นจะไม่มีตู้เย็น แต่การเก็บในหีบที่มีน้ำแข็งก็เพียงพอ เมื่ออุณหภูมิเย็นลง ส่วนผสมจะเซ็ทตัวและแยกส่วนกลายเป็น syllabub ที่สมบูรณ์ เพื่อให้ผู้คนในวิลเลียมสเบิร์กได้เพลิดเพลินกับของหวานอย่างเต็มที่ กระแสนี้ยังคงอยู่ต่อจนถึงทศวรรษที่ 1750 ที่เป็นช่วงที่ฮิตที่สุด คิดว่าตัวคุณพร้อมที่จะลองตีทำอันหนึ่งตอนนี้ไหมล่ะ?
Congealed Salad (1930s)
ยุคภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในปี 1930 ทำให้มีอาหารให้กินน้อยลงทำให้ครอบครัวต้องสร้างสรรค์เมนูอาหารใหม่ ๆ ขึ้น โดยมีคำว่า “Jell-O” ที่ใช้พูดถึงสลัดเยือกแข็งนี้ ในช่วงนั้นมีสูตรที่ใช้ส่วนผสมแปลกประหลาดอย่าง “Oriental Compote” ที่มีพีช น้ำพีช ข้าวสุก และ Jell-O เลมอนหรือส้ม ส่วน “Spanish Jell-O Salad” มีพริกหยวก แตงกวา กะหล่ำปลีขาว น้ำส้มสายชู และ Jell-O เลมอน สิ่งที่คนในครอบครัวต้องทำคือปล่อยให้อยู่ในรูปร่างเพื่อเยือกแข็ง ด้วยความยืดหยุ่นของรายการวัตถุดิบ ครอบครัวสามารถทำสลัดเหล่านี้ด้วยสิ่งที่มีอยู่ในตู้ครัว แม้ของจะน้อยแต่ก็ช่วยสร้างสรรค์ความสุขให้กับครอบครัวในยุคเศรษฐกิจตกต่ำนี้ได้ เป็นแพทเทิร์นของความสุขในช่วงที่ไม่ค่อยมีอะไรให้ยิ้ม แน่นอนว่านี้ทำให้กระแสนี้แพร่ไปทั่วอเมริกาในยุคนั้น
วัชพืชสงบใจ (1950s)
คุณอาจจะรู้หรือไม่ว่ามีกระแสการกินวัชพืชที่เคยฮิตใน 1956 ที่ Ann Wigmore ได้ก่อตั้ง Hippocrates Health Institute ที่เชื่อในสรรพคุณของอาหารธรรมชาติที่บริสุทธิ์เรียกว่า wheatgrass สรรพคุณของมันรวมถึงการรักษาโรคต่าง ๆ เธอเชื่อว่า wheatgrass คือจอกศักดิ์สิทธิ์ในพระคัมภีร์และเริ่มโปรโมทว่ามันสามารถรักษามะเร็ง ข้ออักเสบ และเอดส์ ถึงมันจะไม่จริง แต่ก็กลายเป็นแฟชั่นอาหารที่ยิ่งใหญ่อีกด้วย
Freeze-Dried Space Food (1960s)
กระแสนักบินอวกาศในทศวรรษที่ 60 ทำให้คนสนใจอาหารที่นักบินกินในอวกาศ อย่างอาหารแช่แข็งแห้งที่กลายเป็นสินค้า ไม่มีใครอยากพลาดชิมอาหารระดับอวกาศและเกือบทุกคนก็ต้องลองจนกลายเป็นเทรนด์นับตั้งแต่ยุคนั้น
Dirt (1990s)
Rene Redzepi เชฟที่ร้าน Noma ในโคเปนเฮเกนได้สร้างสรรค์ด้วยการทำ “dirt” จากมอลต์แห้ง เผาไหม้ด้วยเบียร์ และสร้างเทรนด์ใหม่ๆ ในการทำอาหารที่หลากหลาย มันไม่ใช่ดินจริง ๆ แต่ก็กลายเป็นมาตราฐานของอาหาร farm-to-table ที่แพร่หลายจนถึงทุกวันนี้
ชาใส่ชีส (2000s)
กระแสชาใส่ชีสที่ฮิตในเอเชียในยุค 2000 วางชีสบนชาที่เป็นน้ำแข็งและผสมเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมหลากหลาย ทำให้เกิดสูตรใหม่ ๆ มากมาย แล้วแพร่ข้ามประเทศไปยังอเมริกาและสหราชอาณาจักรแต่ไม่ค่อยได้ผล กลับโด่งดังในประเทศอื่น ๆ แทน
นู้ดซูชิ (2000s)
การเสิร์ฟซูชิบนร่างกายมนุษย์ที่เปลือยกาย เป็นการสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคนญี่ปุ่นในยุค 2000 พวกเขาชอบจัดสรรซูชิบนร่างกายของนางแบบแม้กระแสนี้จะไม่แพร่หลายไปทั่วโลกมากนัก แต่ก็สร้างความสนใจให้กับคนที่ได้ลองสัมผัสบรรยากาศนั้นอยู่ไม่น้อย
ทุกสิ่งที่ทอดได้ (2010s)
ในอเมริกายุค 2010s ทุกอย่างดูเหมือนจะสามารถทอดได้ แน่นอนว่ามีตั้งแต่สัตว์แปลก ๆ ไปจนถึงแมงมุม! พ่อค้าแม่ค้าในงานแสดงสินค้าต่างพากันสร้างสรรค์ “อาหารทอด” ขึ้นมาจนกลายเป็นสิ่งที่หนุ่มสาวต้องโพสแชร์บนโซเชียลมีเดียจนกระทั่งกลายเป็นกระแสใหญ่
Freakshake (2010s)
เมนูเครื่องดื่มที่มีความคิดสร้างสรรค์อันเกี่ยวข้องกับการยัดเยียดของหวานทั้งหลายในแก้วเดียว Freakshake กลายเป็นที่ฮือฮาในออสเตรเลียและแพร่กระจายไปทั่วโลก แม้ว่าจะไม่เหมาะกับการบริโภคบ่อยๆ นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นตรงที่เหมาะกับการถ่ายรูปอัพลงโซเชียล ทำให้เป็นกระแสที่แพร่หลาย
Glitter Cappuccino (2010s)
ในปี 2017 Glitter Cappuccino ที่เกิดขึ้นที่อินเดียเริ่มเป็นกระแสนิยมอย่างรวดเร็ว สื่อสังคมช่วยให้กระจายไปทั่วโลกจนยอมรับได้ในวงกว้าง แม้ว่าจะสร้างสรรค์ได้อย่างสวยงามจนแพร่หลายอย่างรวดเร็ว แต่อย่าลืมว่าต้องระวังในการดื่มกลิตเตอร์ที่อาจมีผลไม่ดีต่อสุขภาพ
สรุป
การเปลี่ยนแปลงของกระแสอาหารสะท้อนถึงบรรยากาศของสังคมและวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในห้วงเวลาแต่ละช่วง ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความแปลกใหม่ แต่ยังสอนให้เราเลือกสรรและระวังในสิ่งที่เราจะบริโภค แน่นอนว่ากระแสใหม่ ๆ จะยังคงมาและไป แต่สิ่งที่สำคัญคือต้องมีสติในการเลือกว่าจะแตะกระแสไหนในชีวิตประจำวัน
ฝาก-ถอนไม่มีขั้นต่ำ อิสระการเงินที่ง่าย สะดวก ทันใจ ทุกการทำรายการ
เริ่มต้นแทงบอลไม่มีขั้นต่ำ สนุกได้ทุกแมตช์ ทุกเวลา
“พบกับประสบการณ์ใหม่ที่ gclub คาสิโนออนไลน์ที่ปลอดภัยและได้รับความนิยมมากที่สุดในไทย”
“เล่น ไฮโลไทย แบบออนไลน์ สนุกกับเกมพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย”
“ต้องการเครดิตฟรีเล่นสล็อต? เข้าไปที่ สล็อต168เครดิตฟรี.com เว็บที่มีโปรโมชั่นเด็ดและเกมให้เลือกเล่นหลากหลาย”
แหล่งที่มา:https://listverse.com/2024/09/20/10-head-scratching-food-fads-that-have-come-and-gone/