หมวดหมู่: รวมบทความ

เปิดศักราชใหม่แล้ว ก็มีอนิเมะนับสิบนับร้อยเรื่องตบเท้ารอคิวให้คุณได้ชมกันแบบจุใจ โดยมีทั้งอนิเมะใหม่ที่น่าสนใจ และอนิเมะประกาศ ภาคต่อให้คุณติดตามกันอย่างใกล้ชิด ว่าจะมีทิศทางของเรื่องราวไปในทางไหน จะอวสานแบบ Happy Ending หรือมีปมอะไรให้ติดตามอีกบ้าง ฉะนั้นวันนี้เราจึงขอโอกาสรวบรวม อนิเมะยอดนิยม 2024 มาให้ทุกคนได้ลองทำความรู้จักกัน รับประกันเลยว่าแต่ละเรื่องที่เราคัดมานั้นคุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!  

1. สวรรค์ประทานพร Heaven Official’s Blessing   

สำหรับสาววาย หรือคอแฟนอนิเมะจีนห้ามพลาดเด็ดขาดเลยก็คือสวรรค์ประทานพร Heaven Official’s Blessing ซีซั่น 2 ที่ออนแอร์ตั้งแต่สิ้นปี 2023 เป็นที่เรียบร้อย และกระแสดีลากยาวมาจนติดอันดับต้น ๆ ของตารางอนิเมะจีน 2024 เลยทีเดียว 

สวรรค์ประทานพร อนิเมะยอดนิยม 2024 เป็นอนิเมะแฟนตาซีย้อนยุค ในซ๊ซั่นนี้จะเล่าเรื่องราวภารกิจของเซียนเหลียนตัวละครหลักที่จะต้องไปเยือนเมืองผี เพื่อตามหาองค์เทพที่หายไป ซึ่งจะสามารถหาองค์เทพองค์นั้นเจอหรือไม่ หรือระหว่างทางเซียเหลียนจะต้องเจอกับอะไรบ้างนั้น บอกเลยว่าห้ามพลาด!  

2. Shaman King Flower 

หลังจากปล่อยตัวอย่างอะนิเมะใหม่มาให้ชมตั้งแต่ช่วงต้นปี 2023 แล้ว อีกไม่กี่อึดใจก็จะรับชม Shaman King Flower ที่รับประกันว่าได้ขึ้นแท่นอะนิเมะยอดนิยม 2024 อย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นภาคต่อของ Shaman Kin ที่เคยฉายไปเมื่อปี 2021 

โดยมาภาคนี้ก็จะเล่าเรื่องราวการต่อสู้ของอาซากุระ โย ผู้มองเห็นและสามารถติดต่อกับวิญญาณได้ และวาดฝันได้ว่าอยากสร้างโลกที่มีแต่ความสุข แต่การที่จะทำให้ความฝันของเขาสำเร็จนั้นต้องอาศัยการประลองราชันแห่งภูติเพื่อที่จะได้รับพรจากเกรดสปิริต บอกเลยว่าทั้งเรื่องจะเต็มไปด้วยพลังเหนือธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจจนคุณไม่อยากละสายตาเลยล่ะ 

3. Solo Leveling

อีกหนึ่งอะนิเมะใหม่ที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ Solo Leverling อะนิเมะยอดนิยม 2024 สัญชาติเกาหลีที่เล่าเรื่องราวของซิงจินอู ตัวละครเอกที่มีสถานะเป็นฮันเตอร์ที่อ่อนแอที่สุด แต่วันหนึ่งก็ถูกปลุกพลังขึ้นมาและจำเป็นต้องไปรับภารกิจสุดท้าทายต่าง ๆ เพื่อพัฒนาความสามารถที่ไร้ขีดจำกัด 

ซึ่งในเรื่องนั้นขอบอกเลยว่าจัดเต็มทั้งฉากแอคชั่น ฉากโหด ๆ ที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าสนใจ และชวนติดตามในทุก ๆ ตอนเลยทีเดียว สำหรับใครที่กำลังมองหา Anime 2024 ดูเพลิน ๆ หรือเป็นแฟนมันฮวาเกาหลีก็ไม่ควรพลาดเด็ดขาด! 

4. Blue Exorcist

ไม่ต้องทนดูภาคเก่า ๆ ซ้ำอีกต่อไป Blue Exorcist อะนิเมะเรื่องราวสุดเข้มข้นที่ทิ้งช่วงภาคล่าสุดไปนานกว่า 7 ปี ล่าสุดได้กลายเป็นอะนิเมะประกาศ ภาคต่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในภาคนี้เนื้อเรื่องจะเข้มข้นขึ้นมาก ๆ อีกทั้งยังมีตัวละครใหม่ที่น่าสนใจชวนติดตามอีกมากมายด้วย 

โดยเฉพาะกลุ่มอิลลูมินาติ ที่ตัวเอกอย่างสองฝาแฝดโอคุมุระ ริน และยูคิโอะ จะต้องร่วมมือกันจัดการและไขปริศนาต่าง ๆ ให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี เนื้อเรื่องในอะนิเมะยอดนิยม 2024 เรื่องนี้จะน่าติดตามแค่ไหนรอชมได้เลย 

5.Zhu Xian (Jade Dynasty)

อีกหนึ่งอะนิเมะเรื่องราวสุดเข้มข้นที่ถูกจัดอยู่ในตารางอะนิเมะจีน 2024 ที่ใครอยากหาอะนิเมะดูแบบเพลิน ๆ ต้องลองคลิกเข้ามาดูสักครั้ง เพราะเป็นอะนิเมะยอดนิยม 2024 ที่เล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่ต้องไปอยู่กับกลุ่มคนที่สังหารคนในหมู่บ้านและครอบครัวของเขา จะมีประเด็นให้เขาแก้แค้นกลุ่มคนเหล่านั้นอย่างไร หรือเนื้อเรื่องจะชวนติดตามแค่ไหน ปักหมุดรอชมกันได้เลย  

และทั้งหมดนี้ก็เป็น 5 อะนิเมะยอดนิยม 2024 ที่เราไม่อยากให้คุณพลาดสักเรื่องเดียว เพราะเนื้อเรื่องนั้นเข้มข้นชวนติดตามแบบไม่อยากละสายตาเลยล่ะ แถมมีตัวละครใหม่ ๆ ให้ลองทำความรู้จักอีกเพียบเลยทีเดียว ซึ่งนอกจาก Anime 2024 ทั้ง 5 เรื่องที่เราหยิบมาฝากในวันนี้แล้ว ก็ยังมีอะนิเมะอีกมากมายนับสิบนับร้อยให้เลือกชม  

FIVE IS REAL เว็บไซต์คุณภาพที่จะรวบรวมเทรนด์ฮิตติดชาร์จทุกเรื่องราวที่กำลังเป็นกระแสมาให้คุณได้ติดตาม

one2fives  เป็นเว็บไซต์ศูนย์ รวมจัดอันดับ ที่รวบรวมข้อมูลทุกเรื่องมาไว้เพื่อคุณ

เปิดศักราขใหม่แล้ว บอกเลยว่ามีภาพยนตร์จากค่ายหนังซุปเปอร์ฮีโร่ ทั้ง DC ก็ดี หรือ Marvel ก็ดี ต่อคิวรอเข้าฉายเพียบ! ซึ่งวันนี้เราก็ได้รวบรวมเอา หนังซูเปอร์ฮีโร่ปี 2024 มาฝากกัน จะมีหนังมาร์เวลปีนี้ หรือหนังซุปเปอร์ฮีโร่จากค่ายไหนน่าสนใจบ้างนั้น ตามมาอ่านกันได้เลย 

1. Madame web 

หนังซูเปอร์ฮีโร่ปี 2024 เรื่องแรกที่ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมากเลยก็คือ Madame Web จากค่ายหนังซุปเปอร์ฮีโร่อย่าง Marvel ซึ่งว่าด้วยเรื่องราวของซูเปอร์ฮีโรหญิงที่มีญาณทิพย์ สามารถมองเห็นโลกภายในของแมงมุมได้ บอกเลยว่าใครที่เป็นคอหนังจักรวาล Spider-Man ต้องไม่พลาดเรื่องนี้เด็ดขาด เตรียมปูเสื่อรอชมหนังมาร์เวลปีนี้เรื่องนี้ได้เลย 

2. Deadpool 3 

ถ้าพูดถึงหนังซูเปอร์ฮีโร่ ตลก ตัวละครสุดกวนโอ๊ยต้องยกให้ Deadpool เท่านั้น! และก็ไม่ปล่อยให้แฟน ๆ ดูภาคแรกกับภาคสองวนไปวนมานาน ล่าสุดก็ได้ประกาศภาค 3 มาเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าจะได้รับชมกันแบบจุใจภายในปี 2024 นี้แน่นอน ซึ่งก็แว่ว ๆ มาว่าจะเตรียมฉายภายในเดือนพฤษภาคม 2024 นี้! โดยในภาคนี้มีการประกาศมาว่า Deadpool จะอยู่ในจักรวาลเดียวกับ MCU หรือการนำ X-Men เข้ามาร่วมด้วยนั่นเอง บอกเลยว่างานนี้ทั้งโหด มัน ฮา อย่างแน่นอน   

3. Joker: Folie à Deux

สำหรับหนังรวมฮีโร่ จากค่าย DC ปี 2024 นี้ ณ ตอนนี้ส่งฉายเพียงแค่เรื่องเดียวเท่านั้น ก็คือ Joker: Folie à Deux ที่มีข่าวลือมาว่าจะเป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่เป็นแนวดราม่าผสมมิวสิคัล ที่สำคัญยังได้นักร้องดังระดับตำนานอย่าง Lady Gaga มารับบทเป็น Harley Quinn อีกด้วย ซึ่งจะทำออกมาได้น่าสนใจ น่าติดตามแค่ไหน ห้ามพลาดชมหนังซูเปอร์ฮีโร่ปี 2024 เรื่องนี้เด็ดขาด 

4. Venom 3 

หนึ่งหนังดังกระแสตอบรับดีแบบขั้นสุดจากค่ายหนังซุปเปอร์ฮีโร่อย่างมาร์เวลก็ต้องยกให้  Venom ซึ่งมาในปี 2024 นี้ก็ได้ประกาศภาคต่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเรื่องราวของ Venom 3 จะเป็นการขยายจักรวาลวายร้ายจากภาคเดิมอย่าง Venom: Let There Be Carnage ให้ยิ่งใหญ่และชวนติดตามมากยิ่งขึ้นไปอีก และอาจมีกำหนดฉายช่วงปลายปี 2024 เร็ว ๆ นี้ 

5. Kraven the Hunter

หนังมาร์เวลปีนี้ที่แยกมาจากเรื่อง Spider-Man อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่อยากให้พลาดเลยก็คือ Kraven the Hunter ที่ว่าด้วยเรื่องราวปูมหลังของ Sergei Kravinoff ผู้อพยพชาวรัสเซียที่ต้องการพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นนักล่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ก่อนจะมาผันตัวเป็นตัวละครวายร้าย Kraven the Hunter ที่มีเรื่องราวน่าติดตามที่สุดตัวหนึ่งในจักรวาล Marvel โดยเนื้อเรื่องค่อนข้างเข้มข้นและรุนแรง มีฉากเลือดสาดจนถูกจัดเป็นหนังเรต R เลยทีเดียว  

ก็จบไปแล้วกับการแนะนำหนังซูเปอร์ฮีโร่ปี 2024 ที่เรานำมาฝากทุกคนในวันนี้ ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของลิสต์หนังซุปเปอร์ฮีโร่ทั้งหมดที่จะเข้าฉายในปีนี้เท่านั้น ใครที่เป็นคอหนังซุปเปอร์ฮีโร่ก็รออัปเดตจากทางค่ายหนังซุปเปอร์ฮีโร่แต่ละค่ายได้เลยว่าจะมีหนัง หรือซีรีส์อะไรให้ติดตามบ้างในปี 2024 นี้ รับรองว่าสนุก ชวนติดตามทุกเรื่องแน่นอน  

FIVE IS REAL เว็บไซต์คุณภาพที่จะรวบรวมเทรนด์ฮิตติดชาร์จทุกเรื่องราวที่กำลังเป็นกระแสมาให้คุณได้ติดตาม

one2fives  เป็นเว็บไซต์ศูนย์ รวมจัดอันดับ ที่รวบรวมข้อมูลทุกเรื่องมาไว้เพื่อคุณ

รู้หรือไม่? ว่า มหาวิทยาลัยไทยติดอันดับโลก นั้นมีอยู่หลายแห่งเลยทีเดียว ไม่ว่าจะน้อง ๆ ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยหรือคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยดัง ๆ ในไทยเพื่อสร้างอนาคตให้ลูกอยู่ ห้ามพลาดบทความนี้เด็ดขาด

โดยอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกนี้ถูกจัดอันดับโดย Times Higher Education (THE) สื่อและหนังสือพิมพ์ระดับโลกที่เชี่ยวชาญด้านการศึกษาและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะ โดยจะมีการชี้วัดจากหลาย ๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการเรียนการสอน สภาพแวดล้อมในการทำวิจัย คุณภาพการวิจัย รายได้ทางอุตสาหกรรม ตลอดจนความเป็นนานาชาติของมหาวิทยาลัย ซึ่งจะมีมหาวิทยาลัยดังๆ ในไทยที่ไหนติดอันดับโลกบ้างนั้น ตามมาอ่านพร้อม ๆ กันเลย 

1. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เริ่มกันที่ มหาวิทยาลัยไทยติดอันดับโลก แห่งแรกที่ตามการจัดอันดับของ THE นั้นอยู่อันดับที่ 601-800 ของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก นั่นก็คือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย ที่ก่อตั้งมานานตั้งแต่ปี 2442 ซึ่งกวาดคะแนนภาพรวมไปได้ 37.0-41.8 เลยทีเดียว 

โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้นไม่เพียงแต่จะมีจุดเด่นที่เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ของไทย และมีคณะเรียนที่น่าสนใจหลายคณะเท่านั้น แต่ยังมีงานวิจัย บทความต่าง ๆ ที่ได้รับความร่วมมือจากนานาชาติและองค์กรที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยอีกมากมาย จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมถึงเป็นมหาวิทยาลัยไทยติดอันดับโลก 

2. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

สำหรับมหาวิทยาลัยไทยติดอันดับโลกอันดับถัดมานั้นจะเป็นมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งถูกจัดอันดับที่ 801-1000 โดยมีคะแนนภาพรวมอยู่ที่ 32.7-36.9 โดดเด่นด้วยการจัดการศึกษาและการวิจัยที่มีเนื้อค่อนข้างครอบคลุมทั้งในด้านสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ การแพทย์ การพยาบาล สาธารณสุข ตลอดจนวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยดังๆ ในไทยที่ได้รับการยอมรับด้านงานวิจัยที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากเลยทีเดียว 

3. มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

การจัดอันดับมหาวิทยาลัยไทย 2567 ที่ติดอันดับโลก มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงนั้นถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 1001-1200 ด้วยคะแนนภาพรวมอยู่ที่ 28.3-32.6 ถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยดังๆ ในไทยที่ได้รับคะแนนจาก THE ไม่มากไม่น้อยเกินไป โดยจุดเด่นของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงนั้นอยู่ที่การใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางในการเรียนการสอน ทั้งงานวิจัยยังมีความโดดเด่นหลายแขนงอีกด้วย เช่น วิทยาศาสตร์การเกษตร วิทยาศาสตร์ชีวภาพ สัตวแพทย์ศาสตร์ 

4. มหาวิทยาลัยขอนแก่น

สำหรับมหาวิทยาลัยขอนแก่นก็เป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยไทยติดอันดับโลกเช่นกัน โดยถูกจัดให้เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกอันดับที่ 1201-1500 โดยมีคะแนนภาพรวมอยุ่ที่ 22.8-28.2 ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มีจุดแข็งทั้งด้านการเรียนการสอนเกี่ยวกับเกษตรและทรัพยาธรรมชาติโดยเฉพาะ รวมถึงงานวิจัยที่เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายในสาขาเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร ประมง และป่าไม้ 

5. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 

อันดับมหาวิทยาลัยไทย 2024 ที่ติดอันดับโลกในช่วง 1201-1500 อีกหนึ่งแห่งก็คือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่มีชื่อเสียงด้านหลักสูตรการสอน ตลอดจนงานวิจัยเกี่ยวกับกฎหมายและการเมือง หรือนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์เป็นอย่างมาก และในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยดังๆ ในไทยที่ติดอันดับโลกในครั้งนี้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ยังได้รับการยอมรับในด้านการมีส่วนร่วมเกี่ยวกับความยุติธรรมทางสังคมและในด้านสิทธิมนุษยชนอีกด้วย 

และทั้งหมดนี้ก็เป็นมหาวิทยาลัยไทยติดอันดับโลกที่เราคัดเฉพาะ TOP5 จากที่ THE ได้จัดอันดับไว้มาแบบเน้น ๆ ให้ทุกคนได้ลองทำความรู้จักกัน ซึ่งใครที่กำลังลังเลว่าจะเลือกเรียนคณะที่ชอบ มหาวิทยาลัยที่ชอบที่ไหนดี ก็สามารถนำลิสต์การจัดอันดับมหาวิทยาลัยไทย 2024 ทั้งหมดนี้ไปใช้ประกอบการตัดสินใจเรียนต่อมหาวิทยาลัยกันได้นะ 

FIVE IS REAL เว็บไซต์คุณภาพที่จะรวบรวมเทรนด์ฮิตติดชาร์จทุกเรื่องราวที่กำลังเป็นกระแสมาให้คุณได้ติดตาม

one2fives  เป็นเว็บไซต์ศูนย์ รวมจัดอันดับ ที่รวบรวมข้อมูลทุกเรื่องมาไว้เพื่อคุณ

ในบทความนี้เราจะพามาดูดวงตามวันเดือนปีเกิดฉบับคนญี่ปุ่นกัน ไม่ใช่ราศีดวงดีปี 2024 อย่างที่เคยอ่าน ๆ กัน ซึ่งมีการจัดอันดับ คนดวงดีปี 2024 แบบญี่ปุ่นนั้นจะมีอันดับตั้งแต่ 1-366 ให้คุณได้เช็กกันแบบเต็มที่ พร้อมมีกำหนดด้วยว่าแต่ละวันเกิดนั้นมีธีมเด่นเรื่องไหนบ้าง น่าสนใจมาก ๆ เลยใช่ไหมล่ะ? พร้อมแล้วก็ตามมาเช็คดวงปี 2024 พร้อม ๆ กันได้เลย

ความหมายธีมเด่นของคนดวงดีปี 2024

ก่อนจะไปดูการจัดอันดับคนดวงดี ลองมาดูความหมายโดยย่อของธีมเด่นของคนดวงดีปี 2024 กันก่อนดีกว่า ดังนี้ 

• ปีแห่งการพัฒนา หมายถึงปีแห่งการเริ่มต้นในสิ่งที่เคยล้มเหลว หากลองมองย้อนกลับว่าเคยทำผิดพลาดอะไรมาบ้างแล้ว ปีนี้จะเป็นปีที่เหมาะกับการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง 
• ปีแห่งความท้าทาย ในที่นี้หมายถึงคุณจะเจอกับความท้าทายใหม่ ๆ ได้ร่วมงาน ร่วมแรงกับผู้คนใหม่ ๆ แนะนำว่าค่อย ๆ ทำ อย่ารีบเร่งเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด
• ปีแห่งการก่อร่างสร้างตัว ผลิดอกออกผลกับสิ่งที่เคยเริ่มต้นมาในปีก่อน ๆ ปีนี้จะเริ่มดีขึ้น มองเห็นความสำเร็จใกล้เข้ามามากขึ้น 
• ปีแห่งความมั่นคง หรือปีแห่งการวางรากฐานต่าง ๆ เพื่อให้สิ่งที่คุณตั้งใจทำในปีนี้งอกงาม ประสบ ขณะเดียวกันคนดวงดีปี 2024 ที่มีธีมนี้เด่นจะหมายถึงอาจมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นครอบครัวอีกด้วย
• ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง หรือหมายถึงอาจมีจุดเปลี่ยนบางอย่างเข้ามาในชีวิต ซึ่งอาจจะการเปลี่ยนแปลงที่ดี หรือไม่ดีก็ได้ ใครที่เช็คดวงปี 2024 แล้วได้ธีมนี้ก็จำเป็นต้องระมัดระวังในการตัดสินใจเรื่องสำคัญต่าง ๆ ให้ดี  
• ปีแห่งความรัก ที่ไม่เพียงแต่จะหมายถึงความรักฉันคู่รักเท่านั้น แต่ยังเป็นธีมดวงที่หมายถึงความรักในทุก ๆ ความสัมพันธ์ต่อเพื่อนมนุษย์ ตลอดจนการอุทิศตนเอง การเสียสละตนเองเพื่อสิ่งต่าง ๆ 
• ปีแห่งการเรียนรู้ ที่รวมไปทั้งการเรียนศึกษา การพัฒนาตนเอง และการลงทุนในด้านต่าง ๆ ที่ดีต่อตนเอง เช่น การลงทุนเกี่ยวกับสุขภาพ ความงาม และการเงิน 
• ปีแห่งความสมหวัง ซึ่งใครที่เป็นคนดวงดีปี 2024 แล้วได้ธีมนี้ก็บอกเลยว่าสมชื่อ เพราะคุณจะได้เจอแต่สิ่งที่สมหวังดังปรารถนา  
• ปีแห่งการเสร็จสิ้น ในที่นี้หมายถึงปีนี้จะมีบางอย่างที่คุณทำสำเร็จ หรืออาจจะต้องยุติการทำสิ่งนั้นไป แต่คุณกลับรู้สึกโล่งใจที่สิ่งเหล่านั้นได้เสร็จสิ้นสักที
• ปีแห่งความปั่นป่วนวุ่นวาย ที่อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันบางอย่าง หรือมีปัญหาในความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนมนุษย์
• ปีแห่งการพลิกผัน ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้น อาจโชคดีกลายเป็นโชคลาภก้อนโต หรือโชคร้ายกลายเป็นความปั่นป่วนที่สร้างความลำบากให้คุณก็ได้

TOP10 คนดวงดีปี 2024 เด่นเรื่องอะไรบ้าง 

สำหรับเช็คดวงปี 2024 ด้วยการดูดวง วันเดือนปีเกิด แบบฉบับญี่ปุ่นนั้นเราขอคัดมาเฉพาะ TOP10 เท่านั้น ดังนี้

• อันดับที่ 1 : วันที่ 15 ธันวาคม ธีมดวง: ปีแห่งความสมหวัง 
• อันดับที่ 2 : วันที่ 24 ธันวาคม ธีมดวง: ปีแห่งความสมหวัง
• อันดับที่ 3 : วันที่ 7 ธันวาคม ธีมดวง: ปีแห่งการเสร็จสิ้น
• อันดับที่ 4 : วันที่ 16 ธันวาคม ธีมดวง: ปีแห่งการเสร็จสิ้น
• อันดับที่ 5 : วันที่ 25 ธันวาคม ธีมดวง:  ปีแห่งการเสร็จสิ้น
• อันดับที่ 6 : วันที่ 14 ธันวาคม ธีมดวง: ปีแห่งการเรียนรู้
• อันดับที่ 7 : วันที่ 23 ธันวาคม ธีมดวง: ปีแห่งการเรียนรู้
• อันดับที่ 8 : วันที่ 10 สิงหาคม ธีมดวง: ปีแห่งความสมหวัง
• อันดับที่ 9 : วันที่ 19 สิงหาคม ธีมดวง: ปีแห่งความสมหวัง 
• อันดับที่ 10 : วันที่ 28 สิงหาคม ธีมดวง: ปีแห่งความสมหวัง

สำหรับใครที่ไม่ติด TOP10 คนดวงดีปี 2024 ก็ไม่ต้องเสียใจไป สามารถไปเช็กการจัดอันดับคนดวงดีเพิ่มเติม และดูว่าปีนี้จะมีธีมเด่นเรื่องอะไรบ้าง ได้ที่ https://www.uranai3.com/26592.html

FIVE IS REAL เว็บไซต์คุณภาพที่จะรวบรวมเทรนด์ฮิตติดชาร์จทุกเรื่องราวที่กำลังเป็นกระแสมาให้คุณได้ติดตาม

one2fives  เป็นเว็บไซต์ศูนย์ รวมจัดอันดับ ที่รวบรวมข้อมูลทุกเรื่องมาไว้เพื่อคุณ

เคยสังเกตไหมว่าคนที่สามารถสื่อสารได้หลายภาษาจะมีเสน่ห์มากกว่าคนอื่น แม้ว่าเราจะมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากมายที่ช่วยให้การแปลภาษากลายเป็นเรื่องง่าย แต่ก็สู้คนที่เข้าใจภาษานั้นแล้วสื่อสารอย่างเป็นธรรมชาติไม่ได้เลย ยิ่งได้เจอคนเก่งภาษาที่ยากที่สุดในโลกยิ่งทำให้รู้สึกประทับใจ เพราะคนที่สนใจศึกษามีน้อยและคนที่ตั้งใจเรียนรู้จนใช้งานได้คล่องก็ยิ่งน้อยลงไปอีก เราลองมาดูกันดีกว่าว่า ภาษาที่ยากที่สุดในโลก 2024 นี้จะมีภาษาอะไรบ้าง และภาษาไทยยากอันดับที่เท่าไหร่ของโลก

5 อันดับ ภาษาที่ยากที่สุดในโลก 2024 

ปกติแล้วการจัดอันดับความยากง่ายของภาษาจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด แต่ 5 อันดับแรกภาษาที่ยากที่สุดในโลก 2024 ก็จะเป็นกลุ่มภาษาชุดเดิมเกือบทุกปี จนกว่าจะมีการค้นพบหรือมีการเปลี่ยนหลักภาษาเดิมที่มีอยู่ มาลุ้นกันว่าปีนี้ภาษาไทยจะติดโผกับเขาบ้างหรือไม่

1 ภาษาจีน

ยังคงครองอันดับแชมป์ภาษาที่ยากที่สุดในโลกอยู่เสมอ ด้วยว่าเป็นภาษาที่มีการแบ่งกลุ่มย่อยออกไปอีกมาก เช่น ภาษาจีนกลาง ภาษาจีนกวางตุ้ง ภาษาจีนแต้จิ๋ว เป็นต้น แต่ละกลุ่มก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ต้องอาศัยความจำค่อนข้างมาก ไม่ใช่แค่ตัวอักษรที่ละเอียดซับซ้อนเท่านั้น การออกเสียง การจัดเรียงคำ และการเลือกใช้ประโยคให้เหมาะกับสถานการณ์ล้วนเป็นเรื่องที่ฝึกจนกว่าจะคุ้นชิน หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าภาษาจีนเป็นอีกภาษาที่เขียนยากที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน

2 ภาษาบาสก์

ไม่แปลกใจเลยที่ภาษาบาสก์จะติดอันดับภาษาที่ยากที่สุดในโลก 2024 เพราะเชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีภาษานี้อยู่ นี่คือภาษาพื้นเมืองที่ชาวบาสก์ใช้สื่อสารกันในประเทศสเปน และยังมีคนใช้ภาษานี้ให้เห็นบ้างทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศษ แม้จะเป็นภาษาที่ใช้กันเฉพาะกลุ่ม แต่ความน่าสนใจคือมีวัฒนธรรมประเพณีและความเชื่อหลายอย่างที่ต้องอาศัยภาษาบาสก์ในการศึกษา ปัญหามีเพียงอย่างเดียวคือภาษานี้มีความซับซ้อนมากเหลือเกิน

3 ภาษาฮังการี

เพราะไม่ได้อ้างอิงกับภาษาใดเลยทั้งด้านไวยากรณ์และรากศัพท์ เลยทำให้ภาษาฮังการีกลายเป็นภาษาที่ยากที่สุดในโลก 2024 ซึ่งคนที่สนใจจะต้องเรียนรู้ทุกอย่างใหม่ทั้งหมด ดีหน่อยตรงที่ตัวอักษรมีความคล้ายคลึงกับภาษาอังกฤษจึงง่ายต่อการเขียน ส่วนการออกเสียง การตีความ และการจัดเรียงประโยค บอกได้คำเดียวเลยว่ายากมาก และคนที่เชี่ยวชาญในภาษาฮังการีก็ยังเป็นที่ต้องการอยู่มาก ด้วยว่าเป็นภาษาที่ใช้งานในหลากหลายประเทศ

4 ภาษาเตลูกู

หลังจากได้รับความนิยมก็ขึ้นแท่นภาษาที่ยากที่สุดในโลก 2024 ทันที เดิมภาษานี้ถูกใช้ในประเทศอินเดียเป็นหลัก ต่อมาจึงแพร่หลายไปยังวงการงานศิลป์และกลุ่มคนสายมูเตลูมากขึ้น ในบ้านเราก็ยังได้เห็นอักขระภาษานี้ผ่านตากันบ่อย ๆ นอกจากจะเป็นภาษาที่ยากที่สุดในโลกแล้ว ก็ยังเป็นอีกหนึ่งภาษาที่เขียนยากที่สุดในโลกด้วย ทุกลายเส้นมีความเชื่อมโยงกันอย่างสวยงาม แถมมีตัวอักษรหลายแบบที่ต้องจดจำ ส่วนสำเนียงการออกเสียงก็ไพเราะน่าฟังราวกับมีมนต์สะกดทีเดียว

5 ภาษาญี่ปุ่น

เป็นอีกภาษาหนึ่งที่มีผู้สนใจศึกษาจำนวนมาก และยังคงเป็นภาษาที่ยากที่สุดในโลก 2024 ต่อเนื่องมาจากปีก่อน ๆ ถึงจะไม่ใช่ภาษาที่เขียนยากที่สุดในโลก แต่ความยากของภาษานี้ก็คือมีตัวอักษรและวิธีการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ทั้งยังแบ่งระดับของภาษาให้สอดคล้องกับบุคคลและสถานการณ์ด้วย พอรายละเอียดเยอะจึงเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย เลยต้องจดจำอย่างเข้าใจด้วยถึงจะใช้งานได้ดี 

ภาษาไทยอยู่ที่เท่าไหร่ ติดโผบ้างไหมในปีนี้

ภาษาไทยยากอันดับที่เท่าไหร่ของโลก คำถามที่อยากรู้เสมอเมื่อเจอการจัดอันดับความยากของภาษา อย่างที่เรารู้กันดีว่าภาษาไทยก็ยากไม่น้อยหน้าภาษาไหน เป็นหนึ่งในภาษาที่เขียนยากที่สุดในโลก เรามีทั้งไวยากรณ์ที่ซับซ้อนและศิลปะการเลือกใช้ภาษาที่ไม่ธรรมดาเหมือนกัน แม้ว่าปีนี้จะไม่ติด 5 อันดับภาษาที่ยากที่สุดในโลก 2024 แต่ยังติดอันดับต้น ๆ ของภาษาที่ยากที่สุดในโลกเช่นเคย เพียงแค่อันดับอาจตกลงไปบ้างหลังจากมีชาวต่างชาติให้ความสนใจ และเรียนรู้ภาษาไทยกันอย่างจริงจังมากขึ้น

FIVE IS REAL เว็บไซต์คุณภาพที่จะรวบรวมเทรนด์ฮิตติดชาร์จทุกเรื่องราวที่กำลังเป็นกระแสมาให้คุณได้ติดตาม

one2fives  เป็นเว็บไซต์ศูนย์ รวมจัดอันดับ ที่รวบรวมข้อมูลทุกเรื่องมาไว้เพื่อคุณ

ภาพวาดศิลปินระดับโลก คือผลงานศิลปะที่ทรงคุณค่ามากที่สุดอย่างหนึ่ง ซึ่งภาพวาดแต่ละภาคนั้น ต่างได้บ่งบอกเรื่องราว และความรู้สึก ของศิลปินแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในภาพวาดแต่ละรูปนั้น ก็มีความสวยงามที่เกินบรรยาย ดังนั้นจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 10 ภาพวาดของศิลปินระดับโลกที่มีชื่อเสียงตลอดกาล

ภาพที่ 1 Mona Lisa

รูปภาพของ Mona Lisa  เป็นผลงานศิลปะของศิลปินระดับโลกของ Leonardo da Vinci และยังได้ถูกยกย่องว่าเป็นภาพเขียนที่ดีที่สุดตลอดกาล รวมไปถึงเป็นภาพเขียนที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ศิลปินระดับโลกคนนี้ได้เริ่มเขียนภาพตั้งแต่ในปีค.ศ. 1,503  ในประเทศอิตาลี โดยใช้เวลาเขียนภาพเป็นเวลา 1 ปี ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตลงในปีค.ศ. 1,519 โดยรูปภาพนี้ได้ตั้งชื่อตาม Lisa Del Giocondo ซึ่งเป็นผู้หญิงจากตระกูลมั่งคั่งในเมือง forrest ประเทศอิตาลีในยุคนั้น 

ภาพที่ 2 The Last Supper 

ผลงานศิลปะของลีโอนาโดดาวินชี ที่โด่งดังระดับโลกและเป็นที่รู้จัก มากที่สุดไม่แพ้กับภาพไหน นั่นก็คือภาพ the last chopper  ซึ่งในรูปภาพนั้นแสดงถึงรูปพระกระยาหารมื้อสุดท้าย ของพระเยซูคริสต์พร้อมกับเหล่าสาวกทั้งหลาย ที่พระเยซูคริสต์นั้นได้กล่าวว่าสาวกทั้ง 12 ของพระองค์จะทรยศ และท้ายที่สุดพระองค์ถูกนำไปตรึงไม้กางเขน โดยภาพวาดได้ถูกเขียนขึ้นในปีค.ศ. 1945 และเสร็จสิ้นในปี 1498 ภาพวาดนี้มีเรื่องราวที่เป็นความลับซ่อนอยู่ ชื่อเสียงที่โด่งดังนั้นทำออกมา เป็นหนังสือ นวนิยายและภาพยนต์ The Da Vinci Code ทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่รู้จักขึ้นไปอีก 

ภาพที่ 3 Starry Night

เป็นภาพวาดที่ทุกคนรู้จักกันดีในชื่อ ราตรีประดับดาว ซึ่งเป็นภาพวาดของศิลปินชื่อดังชาวดัตช์นาม Vincent Van Gogh ซึ่งผลงานภาพเขียน Starry Night นับเป็นผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของศิลปินระดับโลกคนนี้ ในรูปภาพจะแสดงถึงหมู่บ้าน เซ็นต์ มีมี่ ที่อยู่ใบใต้ท้องฟ้าที่เป็นรูปหมุน ประกอบกับรูปของต้นไซปรัสที่อยู่ทางด้านซ้าย เป็นภาพวาดที่สวยงาม สามารถเสพสุขได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะดูกี่ครั้งก็ไม่มีวันเบื่อ ในปัจจุบันรูปภาพนี้ตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์นิวยอร์ก

ภาพที่ 4 Girl With A pearl Earring

Girl With A pearl Earring คือภาพวาดที่ทุกคนรู้จักในชื่อ Mona Lisa แห่งชาวดัตช์ เป็นภาพวาดศิลปินระดับโลกที่ชื่อว่า โยฮันเนิส เฟอร์เมร์ เป็นผลงานศิลปะสไตล์บาโรก ที่ไม่ใช่ภาพเหมือนผู้หญิงระดับธรรมดา เพราะถ้าสังเกตให้ดีแล้วจะมีรายละเอียดของรูปภาพต่าง ๆ มากมาย ที่ชวนให้น่าหลงใหลไม่มีหยุด เป็นภาพเขียนสีน้ำมันอีกภาพหนึ่ง ที่ทรงคุณค่ามากเหลือเกิน ในปัจจุบันได้ถูกแสดงโชว์ไว้ที่ หอศิลปะเมืองเฮกในประเทศเนเธอร์แลนด์ 

ภาพที่ 5 The Creation of Adam 

เป็นภาพเขียนอยู่ด้านบน ของโบสถ์ซิสติน ในเมืองวาติกัน ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับเลือกพระสันตะปาองค์ใหม่ เป็นภาพวาดศิลปินชื่อดัง Michelangelo ที่ถูกขนานนามว่าเป็นศิลปินแห่งยุคเรเนซองส์ ภาพนี้ได้ถูกเขียนขึ้นในปีค.ศ. 1508  ถึงปีค.ศ. 1512  นับว่าเป็นผลงานศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งยุค เป็นภาพที่บอกเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ของพระคัมภีร์ปฐมกาล 9 ภาพ The Creation of Adam คือภาพที่อยู่ตรงกลาง และเป็นภาพที่ได้รับการชื่นชมมากที่สุด 

ภาพที่ 6 The Scream

The Scream หรือชื่อที่ทุกคนรู้จักกันเองว่าเสียงกรีดร้อง เป็นผลงานศิลปะของศิลปิน ‎Edvard Munch เป็นจิตกรชาวนอร์เวย์ โดยในภาพนั้นสื่อให้เห็นความหวาดกลัว ที่ทุกคนนั้นสามารถรับรู้ได้ในทันที ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็น จากสีหน้าที่หวาดกลัว และท้องฟ้าด้านบนที่เป็นสีแดง ผนวกกับภาพด้านหลังที่เป็นลักษณะของคนที่กำลังเดินจากไป ทำให้เพิ่มความความหมายของภาพให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปอีก และผลงานภาพนี้ได้การตอบรับและชื่อเสียงเป็นจำนวนมากมาจนถึงเวลานี้

ภาพที่ 7 No. 5 1948 

Jackson Pollock เป็นศิลปินชื่อดังชาวอเมริกัน โดยได้สร้างสรรค์ผลงานที่มีชื่อว่า No. 5 1948 ที่มาจากการสาด หยด และเทสีลงในผืนผ้าใบ โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าจะออกมาเป็นลักษณะเช่นไร เพียงแค่ใช้จิตวิญญาณและความรู้สึกใส่ลงไปอย่างเต็มที่เท่านั้น ทำให้ผลงานศิลปะของศิลปินระดับโลก รูปนี้ออกมาในแนวแอ็บสแตร็กชั่นนิสต์ ที่ได้รับความนิยมสูงมาก และยังเป็นภาพที่สวยงามอีกภาพหนึ่ง กล่าวกันว่านี่คือภาพเขียนราคาแพงที่สุดในสมัยนั้น

ภาพวาดแต่ละภาพนั้น บ่งบอกอะไรให้เราได้รู้หลายอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราว ความรู้สึก หรืออารมณ์ของผู้ว่าในขณะนั้น และในแต่ละรูปภาพนั้นก็จะมีความหมายที่แฝงอยู่อีกมากมาย จึงทำให้รูปภาพยิ่งมีเสน่ห์และมนต์ขลังมากขึ้นไปอีก จึงไม่แปลกใจว่าทำไมภาพวาดแต่ละภาพนั้น ถึงเป็นที่ชื่นชอบของนักสะสมและผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะทุกคน

FIVE IS REAL เว็บไซต์คุณภาพที่จะรวบรวมเทรนด์ฮิตติดชาร์จทุกเรื่องราวที่กำลังเป็นกระแสมาให้คุณได้ติดตาม

one2fives  เป็นเว็บไซต์ศูนย์ รวมจัดอันดับ ที่รวบรวมข้อมูลทุกเรื่องมาไว้เพื่อคุณ

 

อย่างที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิตเพราะเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 นั่นเอง ในโลกนี้ก็มีเสื้อผ้าอยู่หลายรูปแบบ และมีอยู่หลายแบบ แต่ถ้าจะให้พูดเฉพาะของเสื้อที่คนเราใส่อยู่ในปัจจุบันนั้น ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เสื้อวินเทจก็คงเป็นอันดับ 1 ตลอดกาลไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากเสื้อวินเทจ มีเรื่องราวที่น่าสนใจในตัวของมันเอง ทุกคนอยากรู้หรือเปล่าว่าในปัจจุบันนี้ เสื้อวินเทจราคาแพง ที่สุด จะเป็นเสื้อในรูปแบบใดกันบ้าง ไปร่วมหาคำตอบด้วยกันจากข้อมูลด้านล่างนี้ได้เลย 

อันดับที่ 5 เสื้อวินเทจ Nirvana Heart Shaped Box 93S

เปิดตัวมาด้วยเสื้อของวง Nevara โดยเรื่องราวมาจากนักร้องนำที่ชื่อว่า Kurt Cobin ที่ร้องเพลงในทัวร์คอนเสิร์ตเป็นครั้งสุดท้าย ที่เมืองมิวนิคประเทศเยอรมันในปี 1994 ซึ่งเขาร้องเพลงด้วยสภาพอาการกล่องเสียงอักเสบ โดยในคืนนั้นเขาร้องเพลงจนเสียงแทบไม่มี ถึงกับต้องตะโกนร้องออกมา และในคืนนั้นเองทำให้เขาต้องเข้าโรงพยาบาล และยุติทัวร์คอนเสิร์ตทั้งหมด และเพลงสุดท้ายที่เขาร้องนั้นก็คือเพลง Heart Shape Box นั่นเอง จากนั้นเขาได้เสียชีวิตลงในอีก 35 วันต่อมา ซึ่งราคาของเสื้อวินเทจ 90 ของแท้นี้ ในปัจจุบันราคาไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท ถ้าสภาพดีราคาจะแพงกว่านี้อีกหลายเท่า 

อันดับ 4 Aladdin Genius 1992 

ถ้าหากจะถามว่าเสื้อลายการ์ตูน ที่เป็นเสื้อวินเทจยุค 90 แพง ๆ และมีมูลค่าสูงที่สุดในตอนนี้จะเป็นรุ่นใด ตอบได้ทันทีเลยว่าอันดับ 1 ต้องยกให้กับ Aladdin Genius 1992 ซึ่งเรื่องราวนั้นต้องย้อนกลับไปในปี 1970 คนที่ออกแบบเสื้อลวดลายการ์ตูนหรือที่ทุกคนเรียกว่าเสื้อ Funny Shirt และทำขายคนแรกก็คือ Stanley Desantis ซึ่งเขาคนนี้ก็ได้ออกแบบลวดลายของเสื้อการ์ตูนออกมามากมาย และได้ออกแบบเสื้อ Aladdin ตัวนี้เช่นกัน และเสื้อตัวนี้นี่เองได้ถูกนำออกมาประมูล ซึ่งราคาสุดท้ายอยู่ที่ 180,000 บาท นั่นก็เพราะว่าได้เป็นเสื้อที่ถูกออกแบบ จากผู้ที่คิดค้นเสื้อลายการ์ตูนคนแรกนั่นเอง

อันดับ 3 Led Zeppelin1979 Knebworth Backstage Pass

เสื้อวินเทจของแท้ราคาแพง ที่อยู่ในอันดับ 3 ของเรานั้นก็คือ Led Zeppelin1979 Knebworth Backstage Pass ซึ่งเป็นเสื้อยืดสีดำมีชื่อของวงอยู่กลางหน้าอก เป็นเสื้อของวงดนตรีที่มีเรื่องราวตราตรึงอยู่ในจิตใจ ของบรรดานักร้องในวงและเหล่าแฟน ๆ ซึ่งได้ผลิตออกมาสำหรับบรรดาสาวกพันธุ์แท้ ในการแสดงคอนเสิร์ตในปี 1979  และเป็นการแสดงคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของมือกลองประจำวง  ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงไม่แปลกใจที่ทำให้เสื้อตัวนี้มีมูลค่าสูงมาก ราคาประมูลครั้งสุดท้ายในปี 2021 ของเสื้อตัวนี้อยู่ที่ 345,000 บาท 

อันดับ 2 Run DMC 1980 My Adidas

เรื่องราวของเสื้อตัวนี้เกิดมาจากวง Run DMC  ที่มีสไตล์การแต่งตัวที่ไม่เหมือนใครในยุคนั้น และได้การสนับสนุนเครื่องแต่งกายจาก Adidas  ในการทำทัวร์คอนเสิร์ต ทำให้วงดนตรีได้ทำเพลงออกมาชื่อว่า My Adidas จึงทำให้เป็นเสื้อวินเทจที่มีราคาแพง และเป็นเสื้อที่มีคนตามหามากที่สุด และเป็นเสื้อที่หายากที่สุดอีกตัวหนึ่ง จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เสื้อตัวนี้มีราคาสูงมาก โดยมูลค่าของเสื้อตัวนี้นั้นราคาไม่ต่ำกว่า 450,000 บาท ซึ่งเสื้อของวงดนตรีนี้ ยังได้รับความนิยมอีกมากมาย 

อันดับ 1 Kurt Cobin Sonic Youth 1994

นักร้องชื่อดังแห่งยุค Kurt Cobin ได้เสียชีวิตลงในการแสดงคอนเสิร์ตครั้งสุดท้าย ซึ่งในค่ำคืนนั้นเขาได้ใส่เสื้อตัวนี้เล่นคอนเสิร์ตเป็นครั้งสุดท้ายด้วย จึงกลายเป็นเรื่องราวที่น่าจดจำ และคิดถึงได้เสมอเมื่อได้เห็นเสื้อวินเทจ 90 ของแท้ตัวนี้ ซึ่งเป็นเสื้อที่เรานักสะสมและผู้ที่ชื่นชอบทุกคนต้องการมากที่สุด เป็นเสื้อยืดสีขาวที่มีลวดลายของวง Sonic Youth ที่มีลวดลายการ์ตูนสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมกับตัวหนังสือญี่ปุ่นปักอยู่ด้านบน ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้เสื้อตัวนี้มีคุณค่าทางจิตใจสูงมาก และมีคุณค่าต่อวง Nevara ทำให้ราคาเสื้อตัวนี้มีมูลค่ามากกว่า  600,000 บาท 

เราคงจะพูดไม่ได้ว่ามูลค่าของ เสื้อวินเทจนั้นจะถูกหรือจะแพง นั่นก็เพราะว่าเสื้อทุกตัวนั้นมีคุณค่าทางจิตใจ และมีเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป บวกกับความชื่นชอบเข้ามาด้วยแล้ว ทำให้นับวันเสื้อเหล่านี้ก็จะ มีมูลค่าที่สูงขึ้นไปอยู่ตลอดเวลา สำหรับเรานั้นเสื้อวินเทจก็มีความสวยงามและถูกใจมาก คงต้องออกไปหามาใส่เพิ่มอีกสักตัวบ้างแล้ว

FIVE IS REAL เว็บไซต์คุณภาพที่จะรวบรวมเทรนด์ฮิตติดชาร์จทุกเรื่องราวที่กำลังเป็นกระแสมาให้คุณได้ติดตาม

one2fives  เป็นเว็บไซต์ศูนย์ รวมจัดอันดับ ที่รวบรวมข้อมูลทุกเรื่องมาไว้เพื่อคุณ

แม้ว่าปีนี้บ้านเราจะไม่หนาวสะใจอย่างที่หลายคนคาดหวังไว้ แต่ก็พอมีลมเย็นให้ได้หยิบเสื้อคลุมตัวโปรดมาสวมใส่กันบ้าง และขณะที่เรากำลังเฝ้ารอความหนาวเย็นสุดขั้วอยู่นี้ ก็มีอีกหลายประเทศที่เริ่มคิดถึงความอบอุ่นของไอแดดกันแล้ว โดยเฉพาะกลุ่ม ประเทศที่หนาวที่สุดในโลก บางที่มีหิมะตกหนัก บางที่ช่วงเวลากลางวันสั้นลงอย่างมาก และบางที่ก็เป็นประเทศที่หนาวทั้งปี มาดูดีกว่าว่าประเทศที่หนาวที่สุด 2024 คือประเทศอะไร เผื่อใครอยากไปจะได้เตรียมตัวกัน

สัมผัสความหนาวเย็นสุดขั้วกับ ประเทศที่หนาวที่สุดในโลก

ครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปหนาวสั่นกับประเทศที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาไปจนถึงติดลบ กับ 10 ประเทศที่หนาวที่สุดในโลก อุณหภูมิประเทศไหนหนาวสุด ประเทศอะไรบ้างที่มีหิมะตก และพื้นที่ไหนบ้างที่เป็นประเทศที่หนาวทั้งปี รายชื่อเหล่านี้จะเหนือความคาดหมายหรือไม่ ไปดูกันเลย

1 รัสเซีย

หากถามว่าที่ใดหนาวเย็นที่สุดในโลก นาทีนี้คงต้องยกให้เมืองยาคุตสก์แห่งไซบีเรีย พื้นที่ทางฝั่งตะวันออกของรัสเซียซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากในสื่อโซเชียล ประเทศที่หนาวที่สุดในโลกที่มาพร้อมกับอุณหภูมิ -50 องศาเซลเซียส แค่ฟังก็ยังหนาวจับใจ ความเย็นขนาดนี้ทำให้ผู้คนในพื้นที่ต้องปรับตัวกันอย่างมาก ถึงขนาดต้องแต่งตัวให้พืชผักเพื่อให้ผักเติบโตได้เลยทีเดียว

2 แคนาดา

เพราะแคนาดาเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ แต่ละพื้นที่จึงมีความแตกต่างของภูมิประเทศและสภาพอากาศค่อนข้างมาก โดยเฉพาะทางตอนเหนือที่มีหิมะปกคลุมยาวนานหลายเดือน จุดนี้จึงเป็นพื้นที่ของประเทศที่หนาวทั้งปี อุณหภูมิติดลบมีให้เห็นเป็นเรื่องปกติ 

3 มองโกเลีย

เป็นอีกประเทศที่หนาวทั้งปี และติดอับดับ 10ประเทศที่หนาวที่สุดในโลก มาโดยตลอดเช่นกัน ประเทศเล็ก ๆ นี้ไม่มีด้านไหนเชื่อมต่อกับทะเล จึงมีสภาพอากาศหนาวเย็นและแห้งแล้ง บ่อยครั้งจะมีหิมะตกพร้อมลมพัดแรง ทำให้อุณหภูมิที่ต่ำอยู่แล้วต่ำลงไปอีก

4 นอร์เวย์

ด้วยตำแหน่งที่ตั้งซึ่งอยู่ใกล้กับขั้วโลก และลักษณะภูมิประเทศที่เป็นภูเขาน้ำแข็งเกินกว่าครึ่ง พร้อมมีแนวชายฝั่งยาวเหยียด นอร์เวย์เลยติดอันดับประเทศที่หนาวที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่าปัจจุบันภาวะโลกร้อนจะทำให้อะไร ๆ เปลี่ยนไปบ้าง แต่ถ้าถามว่าที่ใดหนาวเย็นที่สุดในโลก นอร์เวย์ก็ยังคงเป็นอีกคำตอบหนึ่งอยู่ดี

5 คีย์กีซสถาน

นี่คือประเทศที่หนาวที่สุดในโลกขนาดเล็ก ไม่มีด้านใดเชื่อมต่อกับทะเล และมีสภาพอากาศแปรปรวนรุนแรงตลอดทั้งปี ทั่วพื้นที่ขาวโพลนด้วยหิมะหนา เวลามีลมก็พัดแรงจนต้องหาที่หลบ บริเวณภูเขาจะหนาวเย็นเป็นพิเศษ ที่อยู่อาศัยรวมถึงวิถีชีวิตของคนในพื้นที่จึงแตกต่างและมีเสน่ห์น่าสนใจมาก

6 ฟินแลนด์

ใครเคยไปล่าแสงเหนือมาแล้วต้องรู้ดีว่าความหนาวเย็นของฟินแลนด์เป็นยังไง ที่นี่เป็นอีกประเทศหนึ่งที่หลายคนนึกถึงเมื่อถูกถามว่าที่ใดหนาวเย็นที่สุดในโลก เพราะไม่ใช่แค่อุณหภูมิที่ลดต่ำลงยาวนานหลายเดือนเท่านั้น แต่ยังมีพายุหิมะโหมกระหน่ำอยู่เป็นประจำ ผู้คนจึงมีช่วงเก็บตัวในบ้านกันเนิ่นนาน แม้แต่สัตว์ก็จำศีลนานกว่าปกติด้วย

7 ไอซ์แลนด์

ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่ไม่ได้หนาวไปจนถึงกระดูก แต่มีอุณหภูมิเฉลี่ยใกล้จุดเยือกแข็งตลอดทั้งปี ช่วงที่ร้อนสุด ๆ ก็แค่ประมาณ 10 องศาเซลเซียสเท่านั้น สำหรับคนรักความหนาวเย็นแล้ว ที่นี่นับเป็นสวรรค์เลยทีเดียว ไอซ์แลนด์เลยเป็นประเทศที่หนาวที่สุดในโลกที่หลายคนอยากย้ายไปลงหลักปักฐาน การมีบ้านสักหลังในเมืองนี้คงดีไม่น้อย

8 ทาจิกิสถาน

ไม่น่าเชื่อว่าประเทศที่ทั้งร้อนและแห้งแล้งจะติดอันดับ 10 ประเทศที่หนาวที่สุดในโลก กับเขาด้วย ประเทศนี้เต็มไปด้วยภูเขาสลับซับซ้อน ส่งผลให้สภาพอากาศแปรปรวนมาก เมื่อร้อนก็ร้อนจัด พอหนาวก็หนาวจับใจ ฤดูหนาวมาถึงเมื่อไรเป็นได้เห็นอุณหภูมิติดลบเสมอ ยิ่งเข้าไปในโซนเทือกเขาต่าง ๆ ของประเทศที่หนาวที่สุดในโลกอุณหภูมิก็ยิ่งต่ำลง

9 สวีเดน

อยากรู้ไหมว่าประเทศอะไรบ้างที่มีหิมะตก สวีเดนนี่ไงที่เราจะได้เห็นหิมะหนากันยาวนานหลายเดือน ประเทศที่หนาวที่สุดในโลกนี้มีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีอยู่ราว ๆ 2-3 องศาเซลเซียส และเมื่อหนาวจัดอุณหภูมิจะลดลงถึงติดลบเสมอ เคยต่ำสุด -53 องศาเซลเซียส แต่จะไม่ได้หนาวพร้อมกันทั่วทั้งประเทศ 

10 เอสโตเนีย

ถึงจะรั้งท้ายการจัดอันดับประเทศที่หนาวที่สุดในโลก แต่ช่วงฤดูหนาวก็ไม่เบาเหมือนกัน เพราะอุณหภูมิลดต่ำกว่าสิบเสมอ นับว่าสมกับตำแหน่ง 10 ประเทศที่หนาวที่สุดในโลกไม่น้อยหน้าประเทศอื่น ข้อดีของที่นี่คือมีทั้งช่วงที่หนาวเย็นและอบอุ่นสลับกันไปตามฤดูกาล ผู้คนจึงใช้ชีวิตอยู่กันอย่างสบาย ไม่ต้องเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านตลอดทั้งปี 

FIVE IS REAL เว็บไซต์คุณภาพที่จะรวบรวมเทรนด์ฮิตติดชาร์จทุกเรื่องราวที่กำลังเป็นกระแสมาให้คุณได้ติดตาม

one2fives  เป็นเว็บไซต์ศูนย์ รวมจัดอันดับ ที่รวบรวมข้อมูลทุกเรื่องมาไว้เพื่อคุณ

คำถามหนึ่งที่จะผุดขึ้นมาเสมอเวลาที่ได้เห็นการจัดอันดับคนดังระดับโลก คือพวกเขาเหล่านั้นใช้ความสามารถของตัวเองทำเงินได้มากน้อยแค่ไหน ยิ่งเมื่อเป็นอาชีพที่คนทั่วไปรู้จักกันดีอย่างนักแสดงหรือนักร้องก็ยิ่งดึงดูดความสนใจได้มาก นักร้องดังระดับโลก 2024 มีค่าตัวเท่าไร Taylor Swift รวยแค่ไหน เป็นบางส่วนที่หลายคนตั้งข้อสงสัย วันนี้เราเลยจะพาไปดูให้ชัด ๆ กันเลยว่า นักร้องที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลก มีใครบ้าง และนักร้องอันดับ 1 ของโลก สร้างรายได้มากขนาดไหน

5 นักร้องที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลก กับสุดยอดผลงานที่ผ่านมา

อย่างที่พวกเรารู้กันดีว่าวงการบันเทิงนั้นมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และทุกอย่างดูเหมือนจะพลิกไปมาอย่างรวดเร็ว จะเป็นคนบันเทิงในสาขาไหนก็ต้องพัฒนาตัวเองและสร้างสรรค์ผลงานดี ๆ ออกมาเสมอ วงการนักร้องก็ดุเดือดไม่แพ้กัน นักร้องดังระดับโลก 2024 จึงไม่ได้เป็นนักร้องชุดเดียวกับปี 2023 ทั้งหมด และดูเหมือนนักร้องอันดับ 1 ของโลกก็จะเปลี่ยนมือแล้วด้วย

1 Taylor Swift

หลังจากได้เห็นกระแสของนักร้องหญิงคนนี้ หลายคนก็อยากรู้ขึ้นมาทันทีว่า Taylor Swift รวยแค่ไหน และ ค่าตัว Taylor Swift 2024 อยู่ที่ประมาณเท่าไร เพราะผลงานของเธอโดดเด่นไม่เหมือนใคร ทั้งยังมีการจัดคอนเสิร์ตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีถึงปลายปี รับเงินก้อนโตหลายหมื่นล้านตั้งแต่ยังไม่เริ่มทัวร์คอนเสิร์ต นี่ยังไม่รวมรายได้จากส่วนอื่นที่จะเกิดขึ้นอีก แนวโน้มที่เธอจะเป็นนักร้องที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลกหลังสรุปผลตอนสิ้นปี 2024 จึงมีความเป็นไปได้สูงมาก

2 Rihanna

จะมีใครไม่รู้จักตัวแม่แห่งวงการเพลงคนนี้บ้าง เธอเคยขึ้นแท่นนักร้องอันดับ 1 ของโลก และนักร้องที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลกมาแล้ว ทุกการแสดงสร้างความสั่นสะเทือนให้ผู้คนในวงกว้าง ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เก่งแค่เรื่องร้องเพลง แต่ยังเป็นเจ้าของธุรกิจที่มากความสามารถ จากข้อมูลล่าสุดในปี 2023 เธอมีรายได้มากถึง 1.7 พันล้านเหรียญ ต้องรอดูว่าปี 2024 เธอจะมีอะไรมาเซอร์ไพร์สแฟนเพลงอีกหรือไม่

3 Paul McCartney

หากเราพิจารณานักร้องอันดับ 1 ของโลกเฉพาะด้านความสามารถ หนุ่มคนนี้ต้องติดอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน เพราะเขาเป็นทั้งนักร้อง นักดนตรี นักแต่งเพลง เรียกว่ารับจบครบในคนเดียวเลย ผลงานของ Paul เคยได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมาแล้วหลายรายการ นั่นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขากลายเป็นนักร้องที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลกด้วย โดยรายได้จากการประมาณล่าสุดอยู่ที่ 1.2 พันล้านเหรียญ 

4 P-Diddy

อีกวงการหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือวงการเพลงแร็พ นักร้องอันดับ 1 ของโลกหลายคนก็มีจุดเริ่มต้นจากแนวเพลงนี้เช่นเดียวกัน Diddy เป็นทั้งนักร้องและนักแต่งเพลง เคยสร้างผลงานที่ครองรางวัลแกรมมี่อวอร์ดหลายปีซ้อนมาแล้ว นอกจากนี้เขายังเป็นนักธุรกิจที่มีชั้นเชิงไม่เบา แน่นอนว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่ได้เรทค่าตัวนักร้อง 2567 ที่สูงเป็นอันดับต้น ๆ ด้วย รายได้คร่าว ๆ ล่าสุดอยู่ที่ 1 พันล้านเหรียญ

5 Madonna

งานนี้จะขาดราชินีเพลงป๊อบไปได้ยังไง เธอคือศิลปินที่สร้างรายได้สูงสุดติดต่อกันยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ เราอาจยังไม่รู้ว่าเธอจะได้รับเรทค่าตัวนักร้อง 2567 สูงสุดหรือไม่ แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็ติดอันดับนักร้องที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลกแน่นอน เพราะเธอคือระดับตำนานที่นักร้องน้องใหม่ชื่นชม และมีฐานแฟนเหนียวแน่นมาก ถึงกระแสความนิยมในวงการเพลงจะเปลี่ยนไปก็ทำอะไรเธอคนนี้ไม่ได้เลย

นักร้องดังระดับโลกกับเส้นทางแห่งความพยายาม

กว่าจะได้ขึ้นแท่นเป็นนักร้องที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลก แล้วไต่ระดับไปจนถึงนักร้องดังระดับโลก 2024 บอกกันชัด ๆ ตรงนี้เลยว่าไม่ง่าย โดยเฉพาะยุคสมัยที่ผู้คนเปลี่ยนใจรวดเร็ว ต้องการมากกว่าแค่เสียงร้องคุณภาพ หรืองานโปรดักชันสุดอลังการ นักร้องจึงต้องมีความโดดเด่นที่ทัชใจผู้ฟังได้ ใครได้เป็นตำนานในยุคนี้จึงนับว่าไม่ธรรมดาเลย

FIVE IS REAL เว็บไซต์คุณภาพที่จะรวบรวมเทรนด์ฮิตติดชาร์จทุกเรื่องราวที่กำลังเป็นกระแสมาให้คุณได้ติดตาม

one2fives  เป็นเว็บไซต์ศูนย์ รวมจัดอันดับ ที่รวบรวมข้อมูลทุกเรื่องมาไว้เพื่อคุณ

ด้วยเทคโนโลยีในการก่อสร้างยุคปัจจุบันนี้ ได้ถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็วมาก ประกอบกับศิลปะในการออกแบบที่หลากหลาย ทำให้เกิดตึกสูงๆมากมายในปัจจุบัน ซึ่งแต่ละตึกนั้นก็มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเป็นของตัวเอง แต่ทุกท่านรู้หรือไม่ว่า ตึกที่สูงที่สุดในโลก 2024  ปัจจุบันนี้มีอะไรบ้าง เราขอยกมาให้กับทุกท่านได้รับทราบกันเป็น 5 อันดับดังต่อไปนี้ 

อันดับ 5 PANG AN FINANCE CENTRE

Ping An Finance Center เป็นตึกระฟ้าที่อยู่ในประเทศจีน และเป็นตึกที่สูงที่สุดในอันดับ 5  ด้วยความสูง 599 เมตร มีจำนวน 115 ชั้น ในเมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้งประเทศจีน โดยถูกว่าจ้างจากบริษัท Pink An และถูกออกแบบโดยนักออกแบบสัญชาติอเมริกัน ก่อสร้างเสร็จสิ้นในปีพ.ศ. 2560 และนี่คือตึกที่สูงที่สุดในเมืองเซินเจิ้น และยังเป็นตึกที่สูงอันดับที่ 2 ของประเทศจีนอีกด้วย มาด้วยกับสถิติที่เป็นหอสังเกตการณ์ที่สูงที่สุดในอาคารระดับ 562 เมตร ตึกที่สูงที่สุดแห่งนี้มีมูลค่าในการก่อสร้างประมาณ 1.54 ล้านเหรียญสหรัฐ 

อันดับ 4 ABRAJ AL BAIT

ด้วยความสูง 601 เมตร  เมตรทำกลายเป็นสิ่งที่สูงที่สุดในโลกในอันดับ 4 เป็นตึกสูงที่ตั้งอยู่ในนครเมกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ตึกนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Complex หรูของกษัตริย์ อับดุล อะซีส เพื่อใช้ในการจัดเลี้ยงของผู้ที่แสวงบุญให้มีความทันสมัยมากขึ้น ด้านบนประกอบไปด้วยนาฬิกาชิ้นใหญ่ที่สุดในโลก เป็นทั้งโรงแรม ห้างสรรพสินค้า และหอดูดาวส่วนด้านบน 4 ชั้นสูงสุดประกอบไปด้วยหอนาฬิกาและพิพิธภัณฑ์ สำหรับมูลค่าในการก่อสร้างนั้นอยู่ที่ 15 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยถูกสร้างขึ้นจากบริษัทก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในซาอุดิอาระเบียที่ชื่อว่า Saudi Bin Laden Group 

อันดับ 3 SHANGHAI TOWER

ตึกที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 3  อยู่ในมหานครเซี่ยงไฮ้ของประเทศจีน ซึ่งเป็นตึกระฟ้าที่มีชื่อว่า Shanghai Tower ซึ่งตึกนี้มีความสูงอยู่ที่ 632 เมตร มีจำนวนชั้นอยู่ที่ 128 ชั้น มีจำนวนลิฟท์อยู่ที่ 97 ตัว ระยะเวลาในการก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี พ.ศ 2551 และเสร็จสิ้นในปีพ.ศ 2557 ถูกก่อสร้างขึ้นมาด้วยบริษัทเจนส์เลอร์ ซึ่งสถานที่ก่อสร้างนี้จะมีตึกประกอบด้วยกัน 3 ตึก นั่นก็คือ ตึกศูนย์การเงินโลกเซี่ยงไฮ้ และตึกจินเม่าทาวเวอร์ แต่เซี่ยงไฮ้เทาเวอร์ นั้นเป็นตึกที่สูงที่สุดในบรรดาตึก 3 หลังที่อยู่ด้วยกัน และมีมูลค่าการก่อสร้างอยู่ที่ประมาณ 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ 

อันดับ 2 MERDEKA-118

เป็นตึกสูง 118 ชั้น และเป็นตึกที่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นั่นก็คือ Merdeka -118 มาด้วยกับความสูง 678.9 เมตร ตั้งอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และในปีนี้ได้กลายมาเป็นอันดับ 2 ของตึกที่สูงที่สุดในโลก 2024 แซงตึกเซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ที่มีความสูง 632 เมตร ด้านบนจะมีปลายแหลมที่สูงมาก ซึ่งสูงถึง 160 เมตร เป็นลักษณะความหมายถึงการประกาศอิสรภาพ เหมือนกับการชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้า ในประเทศมาเลเซียนี้ก็มีตึกที่สูงมากมาย แต่ก็ไม่มีตึกใดที่จะโดดเด่นไปเท่ากับตึกสูงแห่งนี้อีกแล้ว รวมถึงเป็นตึกที่มีความสวยงามและได้รับรางวัลมากมายมานับไม่ถ้วน ถือว่าเป็นอันดับ 2 ของสิ่งที่สูงที่สุดในโลก อีกอย่างหนึ่งที่เป็นความภูมิใจ ของชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเราด้วย 

อันดับ 1 BURJ KHALIFA

Burj Khalifa นี่คือตึกที่สูงในเอเชีย และเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก และยังเป็นการก่อสร้างสิ่งที่สูงที่สุดในโลก ด้วยฝีมือมนุษย์ในปี 2024 ตึกสูงเสียดฟ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้วยความสูงเหนือเมฆที่ 828 เมตร ทำให้เป็นสิ่งที่ยากสำหรับการที่ใครจะมาล้มสถิตินี้ อาคารเริ่มก่อสร้างในปีพ.ศ. 2547 แล้วเสร็จเปิดให้บริการในปีพ.ศ. 2553 ในวันที่ 4 มกราคม ตึกนี้มีจำนวนชั้นอยู่ที่ 163 ชั้น สำหรับใครที่นึกความสุขของตึกนี้ไม่ออก ก็ให้ไปเปรียบเทียบกับหอไอเฟล ซึ่งมีความสูงมากกว่าถึง 3 เท่า ใช้มูลค่าในการก่อสร้าง 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ที่สำคัญภายในตึกมีครบทุกสิ่งอย่างที่ทุกคนต้องการ เป็นตึกที่มีการอำนวยความสะดวกครบทุกด้าน และยังเป็นตึกที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ส่วนในเรื่องความสวยงาม ก็ต้องบอกว่าไม่เป็นสองรองใคร ที่สำคัญยังมีลิฟท์ที่สูงที่สุด และเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย 

ด้วยเทคโนโลยี ความต้องการ และความท้าทายของมนุษย์ที่ไม่มีวันสิ้นสุด รวมไปถึงการแข่งขันของแต่ละประเทศ ที่ทำตึกสูง ๆ ออกมาเพื่อเป็นสถิติกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราอาจจะได้เห็นตึกที่สูงที่สุดในอนาคตอีกมากมายก็ได้ใครจะรู้ ชื่อว่าใครได้มีโอกาสไปประเทศที่มีตึกสูงเหล่านี้ ต้องห้ามลืมไปเยี่ยมชมและถ่ายภาพสวย ๆ กลับมาฝากกันด้วย

FIVE IS REAL เว็บไซต์คุณภาพที่จะรวบรวมเทรนด์ฮิตติดชาร์จทุกเรื่องราวที่กำลังเป็นกระแสมาให้คุณได้ติดตาม

one2fives  เป็นเว็บไซต์ศูนย์ รวมจัดอันดับ ที่รวบรวมข้อมูลทุกเรื่องมาไว้เพื่อคุณ