ใครจะคิดว่าค่ายรถจากประเทศจีนซึ่งหลายคนมองว่าเป็นคู่แข่งนอกสายตา และไม่น่าจะมาไกลในตลาดรถระดับโลกได้สำเร็จ แต่พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า สามารถสร้างความเชื่อมั่นจากลูกค้าทั่วโลกได้ไม่แพ้รถค่ายดังจากยุโรปหรืออเมริกา จะสามารถแบ่งตลาดจากการจำหน่ายรถไฟฟ้าไปได้ถึง 9 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าแผนการเจาะตลาดของค่ายนี้มาถูกทางอย่างมาก หลังจากส่งรถถึงมือลูกค้าไปแล้วมากถึง 272,210 คัน และมีข่าวแว่วว่าพวกเขายังต้องการเจาะตลาดรถทางเลือกใหม่ ของคนรักษ์โลกอย่างต่อเนื่องเพิ่มเติมอีกด้วย เพื่อแบ่งพื้นที่ในตลาดรถไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น
4. กลุ่มพันธมิตรเรโนลต์-นิสสัน-มิตซูบิชิ (Renault-Nissan-Mitsubishi Aliance)

สำหรับกลุ่มพันธมิตรกลุ่มความร่วมมือ ฝรั่งเศส และ ญี่ปุ่น จัดว่าเป็นอีกหนึ่งค่ายรถที่ประสบความสำเร็จในการเจาะตลาดรถไฟฟ้าไม่แพ้เจ้าอื่น หลังมียอดขายทั้งหมด 226,975 คัน ทั่วโลก คิดเป็นสัดส่วนจากการตลาดทั้งหมด 7 เปอร์เซ็นต์ โดยล่าสุดบอร์ดบริหารยังเดินรุดหน้าเจาะตลาดรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับคนใช้รถในยุคใหม่อีกค่าย
5. บีเอ็มดับเบิ้ลยู (BMW)

ทางด้านค่ายรถจากเยอรมัน ยังคงต้องพยายามงัดไม้เด็ดต่อไป เพราะผลประกอบการขายรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่น่าสนใจ หลังการเจาะตลาดรถไฟฟ้ายังไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนัก ถึงแม้จะติดท็อป 5 มียอดขายสูงก็ตาม เนื่องจากว่ามียอดขายไปทั้งหมด 195,979 คัน ซึ่งคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดแล้วอยู่ที่ 6 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น
สำหรับ 5 ค่าย รถที่กำลังผลิตรถไฟฟ้า ที่กล่าวถึงมาทั้งหมด ยังต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หลายอย่าง เพื่อโอกาสเจาะตลาดและกลุ่มผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น โดยในส่วนของเทสลาซึ่งตอนนี้แม้ว่ายังคงรั้งอันดับ 1 ค่ายรถ แต่ในอนาคตพวกเขาอาจจะโค่นจากทำเนียบไม่ยาก เพราะล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมว่า อีลอน มัสก์ กำลังเจอตออย่างจัง เมื่อ ปีเตอร์ โรว์ลินสัน อดีตหัวหน้าวิศวกรของ เทสลา เตรียมตัวสร้างรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ขึ้นมา ในชื่อ ลูคิด มอเตอร์ โดยมีแนวคิดว่าจะพัฒนารถยนต์ EV ไปได้ไกล และเร็วกว่าเดิม