Categories
รวมบทความ

5 อันดับ ธนาคาร ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ธนาคาร
5 อันดับ ธนาคาร ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ถ้าจะพูดถึง ธนาคาร ชั้นนำของโลกแล้วละก็จีนถือเป็นอีกประเทศที่มี สถาบันการเงิน ที่มูลค่าสินทรัพย์สูงติดระดับโลกอยู่หลายแห่ง ทั้งนี้การจัดอันดับของสถาบันการเงินนั้น เป็นผลดีต่อนักลงทุนอย่างมาก เพราะทำให้รู้ว่าแหล่งการเงินที่มีขนาดใหญ่แต่ละแห่งอยู่ที่ไหนบ้าง และประเทศไหนเป็นเจ้าของสถาบันการเงินนั้น ๆ บ้าง โดยมีผลดีตรงความปลอดภัย และความมั่นคงในการลงทุน รวมถึงการเลือกใช้บริการ

ธนาคารกับความยิ่งใหญ่ที่สุดยอด

จากผลสำรวจมูลค่าทรัพย์ของ ธนาคาร ทั่วโลก และการจัดอันดับ Top 5 ของสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุด สถาบันการเงินของประเทศจีนยังครองความยิ่งใหญ่อย่างเหนือชั้น และตลอดกาลจริง ๆ เพราะในปัจจุบันมีหลายแห่งของประเทศจีน ยึดตำแหน่งระดับต้น ๆ ของโลก และเป็นยัง สถาบันการเงินที่มีมูลค่าสินทรัพย์สูงที่สุด อีกด้วย โดย 5 สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกมี ดังนี้

1. INDUSTRIAL AND COMMERCIAL BANK OF CHINA 

ธนาคาร
INDUSTRIAL AND COMMERCIAL BANK OF CHINA

ธนาคาร เพื่อการอุตสาหกรรม และการพาณิชย์แห่งประเทศจีน ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1984 และเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก เน้นภาคอุตสาหกรรม โดยส่วนใหญ่เสนอเงินกู้ในด้านการผลิต การขนส่ง พลังงาน และการค้าปลีก สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ในปัจจุบันมีมูลค่าสินทรัพย์รวมสูงถึง 4.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ 

2. CHINA CONSTRUCTION BANK CORPORATION

ธนาคาร
CHINA CONSTRUCTION BANK CORPORATION

ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจีน และในเวลานี้ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกด้วย ก่อตั้งในปี ค.ศ.1954 เน้นการดำเนินงานในเอเชีย และในฮ่องกง ส่วนสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน มูลค่าสินทรัพย์รวม 4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ 

3. ARGRICULTRUL BANK OF CHINA 

ธนาคาร
ARGRICULTRUL BANK OF CHINA

สถาบันการเงินเพื่อการเกษตรแห่งประเทศจีน มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1951 โดย เหมา เจ๋อตง สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน มูลค่าสินทรัพย์รวม 3.65 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

4. BANK OF CHINA

ธนาคาร
BANK OF CHINA

สถาบันการเงินเก่าแก่ที่สุดของจีน ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1912 ให้บริการด้านพาณิชย์ การจัดการสินทรัพย์ วาณิชธนกิจ การประกันภัย และบริการทางด้านการเงินอื่น ๆ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน มูลค่าสินทรัพย์รวม 3.62 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ 

5. MITSUBISHI UFJ FINANCIAL GROUP (MITSUBISHI)

ธนาคาร
MITSUBISHI UFJ FINANCIAL GROUP (MITSUBISHI)

MITSUBISHI เป็นกลุ่มสถาบันการเงินที่ให้บริการทางด้านการเงินที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เน้นให้บริการทางการเงิน และการลงทุนที่หลากหลาย รวมทั้งพาณิชย์ การเงินระหว่างประเทศ และบริการจัดการสินทรัพย์ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มูลค่าสินทรัพย์รวม 3.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ 

แต่ละแห่งถือว่าเป็นสถาบันทางการเงินสำคัญทางเศรษฐกิจโลก

ธนาคาร BANK เป็นสถาบันการเงินที่ให้บริการหลากหลายรูปแบบ เช่น ด้านธุรกรรมเชิงพาณิชย์ การแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ การซื้อขายหุ้น และอื่น ๆ การจัดอันดับของสถาบันการเงินทั่วโลก พิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจของเหล่านักลงทุนเช่นกัน ที่สำคัญธนาคารของจีนยังคงเป็นประเทศในแถบเอเชียที่ครองความเป็นที่ 1 มาตลอดจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งปัจจุบันหลายแห่งยังสามารถบ่งบอกถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมของโลกได้อย่างง่ายดาย โดยในเวลานี้การชะลอตัวทางด้านการเงิน เศรษฐกิจอาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อสถาบันการเงินมากนัก แต่การแสดงออกถึงความมั่นคงทางการเงินต่าง ๆ จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นต่อลูกค้าเพิ่มมากขึ้นได้อย่างง่ายดาย

Categories
รวมบทความ

5 อันดับ ค่ายรถใช้เป็นรถแข่ง ชิงตำแหน่งรุ่นใหญ่จ้าวสนามทางเรียบ

รถแข่ง
5 อันดับ ค่ายรถใช้เป็นรถแข่ง ชิงตำแหน่งรุ่นใหญ่จ้าวสนามทางเรียบ

รถแข่ง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแรงดึงดูดคนดูในสนามแข่งรถทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสนาม กรังซ์ปรี รวมถึงสนามทางเรียบ ซึ่งนอกจากนักแข่งจะเป็นตัวดึงดูดผู้ชมเข้าสนามแล้ว อีกหนึ่งเหตุผลที่สามารถดึงดูดใจแฟน ๆ ชื่นชอบความเร็วคือ รถสวย ๆ ที่ลงสนามแข่งขัน ซึ่งปัจจุบันมีหลายค่ายที่เข้าร่วมแข่งขัน ประลองความเร็ว เพื่อชิงแชมป์ตำแหน่งจ้าวสนาม

รถที่ใช้แข่งชิงจ้าวสนามทางเรียบหลายค่ายคือพลังดูดความน่าสนใจของรายการแข่งขัน 

รถแข่ง จากหลาย ๆ ค่ายในปัจจุบันร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรายการแข่งขัน โดยแต่ละค่ายจะจัดการโมดิฟายรถแข่งด้วยตัวเอง เพื่อดึงสมรรถนะของรถออกมาให้หมด หรืออีกนัยหนึ่งหากชนะในสนามแข่งขัน สามารถเพิ่มยอดขายได้ในอนาคตระยะยาว ซึ่งงานนี้เรียกว่าค่ายรถมองการณ์ไกลพอสมควร ดังนั้นการโมดิฟายรถก่อนลงสนามถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญ ส่วนในสนามแข่งขันต้องยกให้เป็นหน้าที่ของนักแข่งว่าสามารถรวมเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถได้หรือไม่ 

สำหรับสนามทางเรียบมีรถลงแข่งหลายรุ่น แต่สำหรับรุ่นใหญ่ต้องมาจาก 5 ค่ายดังนี้

สำหรับค่ายรถยนต์ที่ใช้เป็นรถแข่งลุยศึกสนามทางเรียบระดับ “Super GT 500” ใช้วัดความเร็วและสมรรถนะของรถมีทั้งหมด 5 ค่าย 

1.  นิสสัน (Nissan GT) 

รถแข่ง
นิสสัน (Nissan GT)

ค่ายรถญี่ปุ่นที่สามารถเจาะสนามแข่งขันได้ทุกรูปแบบ และถือว่าค่ายนี้เตรียมตัวมาดีสุด ๆ เพราะสามารถเทียบรัศมีของรถยุโรป หรือค่ายดังชั้นนำหลายแห่งไม่ยาก ซึ่งจุดเด่นของค่ายนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่รถจากสัญชาติญี่ปุ่นธรรมดาทั่วไป เพราะเป็นค่ายรถที่ลงสนามทุกรายการ ทำให้สามารถเก็บประสบการณ์ จุดแข็งและจุดอ่อนของสนามต่าง ๆ มาปรับใช้ จนสามารถคลอดรถที่ได้ชื่อว่า “นางฟ้าซาตาน” แห่งสนามไปโดยปริยาย

2.  ออดี้ (Audi)

รถแข่ง
ออดี้ (Audi)

ค่ายรถจากเมืองเบียร์ ซึ่งติดโผอยู่ในกลุ่มค่ายรถที่ได้รับความนิยมใช้ประลองความเร็ว เพื่อแย่งชิงตำแหน่งจรวดทางเรียบร่วมกับทีมค่าย ๆ อื่น ถึงแม้ปกติแล้วค่ายนี้จะผลิตรถใช้งานทั่ว ๆ ไปเป็นหลัก แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ลงสนามแข่งขัน ออดี้ พร้อมรบเต็มที่เช่นเดียวกัน ซึ่งมีโอกาสคว้าแชมป์และรองแชมป์รายการต่าง ๆ มาแล้วหลายรายการ และยิ่งมาพร้อมกับเครื่อง 8 สูบ ยิ่งทำให้ค่ายนี้หล่อ ดุ ขึ้นทันตาเห็น

3.  เบนซ์ (Benz)

รถแข่ง
เบนซ์ (Benz)

ค่ายรถจากเยอรมัน ซึ่งถึงแม้ว่าจะมาจากประเทศเดียวกับ ออดี้ แต่ในสนามแข่งขันไม่มีคำว่าเป็นมิตรแน่นอน เพราะค่ายนี้พร้อมโมดิฟายรถเต็มที่จากช่างผู้มีประสบการณ์ เพื่อลงสนามแข่งขันชิงความเป็นหนึ่ง นอกจากนั้นหลาย ๆ รุ่นของ เบนซ์ ถือว่าประสบความสำเร็จ และสร้างยอดขายให้กับสาวกได้อย่างต่อเนื่อง

4.  บีเอ็มดับเบิ้ลยู (BMW)

รถแข่ง
บีเอ็มดับเบิ้ลยู (BMW)

ถึงแม้ปกติ BMW คือรถระดับไฮคลาสบนท้องถนนตามปกติ และรูปลักษณ์ได้ชื่อว่ารถบ้าน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่แปลงร่างลงสนามแข่งขันรายการ GT 500 รับประกันได้เลยว่า พวกเขาไม่เคยทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง จากทีมช่างเต็มไปด้วยประสบการณ์หลายสมัย สามารถเพิ่มสมรรถนะรถบ้านให้กลายเป็นปีศาจในทางเรียบได้อย่างรวดเร็ว เรียกคะแนนความน่าสนใจจากแฟน ๆ รายการแข่งขันระดับสูงสุดของรายการแข่งขันทางเรียบไม่ต่างจาก 2 ค่าย สัญชาติเดียวกันหรือค่ายรถชื่อจากแดนอาทิตย์อุทัยอย่างนิสสัน 

5.  ฮอนด้า (Honda)

รถแข่ง
ฮอนด้า (Honda)

อีกหนึ่งค่ายจากญี่ปุ่นซึ่งมาพร้อมกับกำลังแรงม้าที่ไม่ด้อยกว่าคู่แข่งทั้ง 4 ค่าย อีกทั้งสีสันสะดุดตา รวมถึงทีมช่างไม่ได้เป็นรองคู่แข่งจากยุโรป ซึ่งได้ชื่อว่ามีสมรรถนะยอดเยี่ยม หรือแม้แต่ค่ายรถร่วมชาติอย่างนิสสันแม้แต่น้อย ดังนั้น ทันทีที่ลงสนามแข่งขัน จึงสามารถเรียกความสนใจจากคอความเร็วได้ไม่ยาก ส่วนความสำเร็จพวกเขาไม่ได้น้อยหน้าค่ายอื่นเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้สำหรับมนต์เสน่ห์ที่ทำให้การแข่งขันรถ คือ รถแข่ง ซึ่งแต่ละค่ายรถจะจัดเต็ม จัดหนัก เพื่อชัยชนะและครองตำแหน่งที่ 1 ของรายการรถยนต์ทางเรียบ นอกจากนั้นทางด้านนักแข่งที่อยู่หลังพวงมาลัย และทีมงานที่ดูแลรถระหว่างแข่งขัน ถือว่ามีความสำคัญต่อรายการแข่งขันเช่นเดียวกัน โดยความสนุกของรายการนี้คือ เสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่ม ซึ่งบ่งบอกถึงพลังแรงม้าของการแข่งขันระยะทาง 365 กิโลเมตร จำนวน 66 รอบ 

Categories
รวมบทความ

5 อันดับ เต็นท์ยอดนิยมของนักตั้งแคมป์

เต็นท์
5 อันดับ เต็นท์ยอดนิยมของนักตั้งแคมป์

เต็นท์ คืออุปกรณ์จำเป็นในการพักแรม หรือแคมป์ปิ้งในป่า หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ซึ่งมีหลายประเภท หลายราคา โดยในปัจจุบันถือว่าเป็นสินค้ากำลังมาแรง เพราะการท่องเที่ยวเชิงค้างแรมเริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันเต็นท์ยังเป็นสินค้าที่ซื้อง่าย เพราะมีขายทั้งหน้าร้าน ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ หรือตามช่องทางร้านค้าออนไลน์ ซึ่งจะมีให้เลือกแบบ และราคาได้มากกว่า

การเลือกซื้อเต็นท์ที่ถูกต้องช่วยให้การตั้งแคมป์สนุกขึ้น

การเลือกซื้อ เต็นท์ อาจจะต้องพิจารณาให้รอบคอบ ก่อนตัดสินใจซื้อเพราะเต็นท์มีหลายประเภทและหลายขนาด ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเข้าใจถึงจุดประสงค์การใช้งานของตัวเองด้วยว่า ต้องการเต็นท์ แบบไหน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง และยังเพิ่มความสนุกให้กับการท่องเที่ยวแบบ ตั้งแคมป์ มากยิ่งขึ้น โดยการเลือกซื้อนอกจากศึกษาด้วยตัวเองแล้ว สามารถขอคำแนะนำจากคนขาย หรือกูรูก็ได้ เพื่อความชัวร์ว่าการตัดสินใจของคุณถูกต้อง 

Tent ตั้งแคมป์หรือสำหรับเดินป่าซึ่งได้ชื่อว่ายอดนิยมมีกี่ประเภท

ในปัจจุบันมีหลายประเภทด้วยกัน ซึ่งแต่ละประเภทจะมีความแตกต่างกันพอสมควร อีกทั้งการใช้งานก็จะแตกต่างกันออกไปเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นเรื่องน้ำหนัก และการพกพายังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยทำให้หลาย ๆ คน ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ ดังนั้นเรามาดูกันว่า อุปกรณ์ตั้งแคมป์ ชนิดนี้แต่ละประเภทมีอะไรบ้าง โดย Tent ที่นิยมใช้กันในปัจจุบันมี 5 แบบ นั่นก็คือ

1.  แบบแบ็คแพ็ค 

เต็นท์
แบบแบ็คแพ็ค

สำหรับ เต็นท์ ประเภทนี้ จะมีรูปร่างคล้ายอุโมงค์ แต่จุดเด่นคือ มีน้ำหนักเบามาก ไม่ว่าจะเป็นผ้า หรือแม้แต่เสาก็ยังมีน้ำหนักเบาสุด ๆ สำหรับประเภทนี้มีหลายรูปแบบด้วยกัน นอกจากนั้นการออกแบบมาจะเน้นหนักไปที่หลังคาต่ำมาก เพราะต้องการรองรับการต้านทานของแรงลม และอาจจะออกแบบให้มีระเบียงยื่นออกมาเล็กน้อย เพื่อใช้ประโยชน์ ทั้งนี้สำหรับเต็นท์บางรุ่นยังมีกันสาดติดมาให้อีกด้วย โดยมีขนาดตั้งแต่ 2 เป็นต้นไป ซึ่งเหมาะกับการพกพามากที่สุด

2.  แบบครอบครัว 

เต็นท์
แบบครอบครัว

มีขนาดใหญ่ และมีพื้นที่ใช้สอยภายในกว้างมาก ทำให้สามารถรองรับจำนวนคนภายในครอบครัวได้มากกว่าเต็นท์แบพกพา โดยมีขนาดตั้งแต่ 4 คนขึ้นไป ส่วนลักษณ์โครงสร้างจะไม่ค่อยแตกต่างจากแบบพกพามากนัก แต่ต้องแลกมาด้วยน้ำหนักที่มากขึ้น ดังนั้นเต็นท์ชนิดนี้จะเหมาะสมกับการเดินทางที่มีรถยนต์ หรือการท่องเที่ยวที่มีการเดินทางด้วยรถส่วนตัวมากกว่า 

3.  แบบกระโจม

เต็นท์
แบบกระโจม

จะเป็นเต็นท์ที่ให้อารมณ์เหมือนที่พักของชนเผ่ายิปซี โดยจะมีเสา 1 ต้นอยู่ตรงกลาง จากนั้นจะมีผ้าเต็นท์กลางออกไปทั่วเป็นทรงกลม และยึดผ้าเต็นท์กับสมอเอาไว้กับพื้น เพื่อป้องกันลมพัด ส่วนเรื่องน้ำหนักอาจจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับเรื่องของผ้าเต็นท์ แต่จะมีปัญหาในเรื่องของเสาเต็นท์ ซึ่งข้อดีของเต็นท์ชนิดนี้คือ มีอากาศถ่ายเทมากกว่าเต็นท์ชนิดอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหน้าร้อน เพราะเต็นท์ชนิดนี้จะมีความโปร่งจากเสากลางที่สูงนั่นเอง 

4.  แบบบ้าน

เต็นท์
แบบบ้าน

สำหรับเต็นท์แบบนี้จะเหมาะกับการไปพักแบบครอบครัวใหญ่ หรือไปตั้งแคมป์กันกลุ่มใหญ่ อย่างเช่นกลุ่มเพื่อน หรือสมาคมต่าง ๆ เป็นต้น เพราะตัวเต็นท์มีขนาดใหญ่มาก อีกทั้งใน 1 หลัง ยังสามารถแบ่งเป็นห้องขนาดใหญ่ข้างในเพิ่มเติมอีกที ทำให้เหมือนบ้าน และมีความมเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น โดยสามารถรองรับคนได้มากถึง 6-10 คน อีกทั้งยังมีความสูงของเต็นท์มากถึง 2 เมตร และยังมีประตู-หน้าต่างช่วยระบายความร้อน และอากาศภายในตัวเต็นท์ได้ดีอด้วย แต่เต็นท์แบบนี้จะมีปัญหาในการขนย้าย จึงไม่เหมาะกับการเดินทางด้วยรถสาธารณะมากนัก 

5.  แบบป๊อปอัป

เต็นท์
แบบป๊อปอัป

ข้อดีของเต็นท์ตัวนี้คือน้ำหนักเบา และพกพาได้ง่าย อีกทั้งไม่จำเป็นต้องต่อเสา หรือเสียเวลากับการปักสมอบก เพราะเพียงแค่จับออกมาโยน ก็จะมีที่กันลมกันยุงในเวลาอันรวดเร็ว หรือพร้อมพักผ่อนทันที ส่วนเวลาเก็บก็ง่ายไม่ต่างจากนำมาใช้ แต่มีข้อเสียว่าไม่ค่อยคงทนเท่าไรนัก จึงไม่เหมาะกับการพักแรมในที่ลมแรง หรือมีสภาพอากาศแปรปรวนตลอดเวลา

ทั้ง 5 แบบที่นำเสนอไปนั้น ถือว่าเป็นกำลังเป็นที่นิยมของใครหลายคน สำหรับการตั้งแคมป์หรือการท่องเที่ยวแบบนอนค้างโดยไม่มีบ้านพัก และในปัจจุบันสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง เปิดให้มีจุดกางเต็นท์แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย ซึ่งทำให้ช่วงนี้เต็นท์หลากหลายยี่ห้อ มีราคาที่จับต้องได้มากขึ้น แต่ก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อควรศึกษาและหาข้อมูลให้มากที่สุด เพื่อความเหมาะสมกับการใช้งาน และทำให้เกิดความคุ้มค่าในการใช้งานได้อย่างเหมาะสมกับตัวเงินที่เสียไป

Categories
รวมบทความ

5 อันดับ โรงพยาบาลไทย บริการดีที่สุดประจำปี 2021

โรงพยาบาลไทย
5 อันดับ โรงพยาบาลไทย บริการดีที่สุดประจำปี 2021

ในปัจจุบัน โรงพยาบาลไทย ถือว่ามีพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ไม่แพ้โรงพยาบาลประเทศอื่น ๆ ซึ่งมีหลายโรงพยาบาลที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในประเทศไทยประจำปี 2021 ด้วยพัฒนาการด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานบริการ หรือเทคโนโลยีต่าง ๆ

วิธีการบริการของโรงพยาบาลไทยเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจมาใช้บริการของประชาชน

ทั้งนี้ถ้าการบริการของ โรงพยาบาลไทย เป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญทำให้คนเลือกมาใช้บริการ ซึ่งปัจจุบัน โรงพยาบาลเอกชนไทย มีประสิทธิภาพไม่ต่างจากประเทศอื่น ดังนั้น การพัฒนางานบริการของแต่ละแห่งจึงเป็นเรื่องดึงดูดใจของผู้ใช้บริการทันที

เทคโนโลยีที่ทันสมัยเป็นอีกตัวเลือกของคนไข้เช่นเดียวกัน

นอกจากนั้นเทคโนโลยียังเป็นอีกหนึ่งจุดขายของสถานพยาบาลนั้น ๆ เช่นเดียวกัน เพราะเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ที่ทำให้ผู้ใช้บริการพิจารณาการใช้บริการเป็นอันดับต้น ๆ ไม่ต่างจากงานบริการ อย่างไรก็ตามสำหรับ โรงพยาบาลไทยที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดติดอันดับท็อป 5 ยังคงได้รับการแนะนำแบบปากต่อปากอีกด้วย

1.  โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

โรงพยาบาลไทย
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

สำหรับที่นี่ยังคงรับเลือกให้เป็นโรงพยาบาลไทยเอกชนที่ดีที่สุดในเอเชีย จากรางวัลการันตีระดับสากล ด้วยบริการเกินคุณภาพด้วยในระดับมาตรฐานโรงแรม 5 ดาวโดยได้รับรองมาตรฐานจากอเมริกา หรือ Joint Commission International หรือรู้จักกันในชื่อย่อว่า “JCI” อีกหนึ่งของไทย ข้อดีของที่นี่คือ บุคลากรทุกคนได้รับการอบรมอย่างดี ทำให้การบริการถูกจุดของผู้มาใช้บริการอย่างมาก อีกทั้งเทคโนโลยีต่าง ๆ ช่วยสร้างความมั่นใจให้มาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง จนเป็นโรงพยาบาลที่ชาวต่างชาติเลือกใช้บริการเป็นจำนวนมาก

2.  โรงพยาบาลสมิติเวช

โรงพยาบาลไทย
โรงพยาบาลสมิติเวช

โรงพยาบาลที่มีคุณภาพในการรักษามานาน ซึ่งได้รับการยอมรับจากคนไทยและต่างชาติมาโดยตลอด เนื่องจากได้รับการรับรองมาตรฐานสากลจากสถาบันคุณภาพจาก รพ.แห่งสหรัฐอเมริกา Joint Commission International หรือรู้จักกันในชื่อย่อว่า “JCI” ทั้งนี้ สมิติเวช ยังได้ชื่อว่าเป็นสถานพยาบาลที่เหล่าคนดังเลือกมาใช้บริการเป็นประจำเสมอ โดยที่นี่มีการจัดอบรมบุคลากรทุกฝ่ายเป็นอย่างดี รวมถึงบุคลากรแพทย์ และพยาบาลต่อการบริการเป็นอย่างดี ทำให้การบริการออกมาดูดีมาก จนทำให้ที่นี่ได้รับการยืนยันจากผู้เข้ารับบริการว่าเป็นโรงพยาบาลที่ดีสุด ๆ

3.  โรงพยาบาลพญาไท

โรงพยาบาลไทย
โรงพยาบาลพญาไท

อีกหนึ่งโรงพยาบาลในเครือของกรุงเทพ โดยมีจุดเด่นหลายเรื่องเกี่ยวกับหัวใจ ซึ่งที่นี่ได้ชื่อว่ามีมาตรฐานสูงมาก ดังนั้นหากเลือกมอบความไว้ใจให้ที่นี่ดูแลรักษา จะได้พบกับการดูแลและการบริการที่ดีและมีคุณภาพแน่นอน โดยที่นี่มีหลายสาขา และได้ชื่อว่าเป็นตัวเลือกที่ใครหลายคนพร้อมจะแลกถึงแม้มีราคาค่ารักษาสูงก็ตาม

4.  โรงพยาบาลกรุงเทพ

โรงพยาบาลไทย
โรงพยาบาลกรุงเทพ

สำหรับที่นี่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง จนได้รับการยกย่องให้เป็นโรงพยาบาลเอกชนระดับชั้นนำของเมืองไทย ปัจจุบันมีทั้งหมด 40 สาขา โดยแต่ละสาขามีคุณภาพการบริการในมาตรฐานเดียวกัน จนทำให้ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าของรางวัล Thailand Zocial Award 2018 และในปี 2562 ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าของรางวัลนายจ้างดีเด่นแห่งประเทศไทยมาหมาด ๆ ทั้งนี้ด้วยชื่อเสียงและคุณภาพในการรักษา ทำให้ที่นี่เป็นตัวเลือกที่หลายคนเลือกใช้บริการบ่อย ๆ โดยจุดเด่นของที่นี่คือการรักษาโรคหัวใจ

5.  โรงพยาบาลบีเอ็นเอช

โรงพยาบาลไทย
โรงพยาบาลบีเอ็นเอช

โรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกในประเทศไทย โดยในปัจจุบันมีอายุมากกว่า 100 ปี ซึ่งที่นี่จะมีการพัฒนาระบบต่าง ๆ ตลอดเวลา รวมถึงการให้บริการของบุคลากรตามแผนกต่าง ๆ อย่างดี นอกจากนั้นเรื่องเทคโนโลยี ถือว่าไว้ใจได้มากเช่นเดียวกัน เพราะได้ชื่อว่าเป็นโรงพยาบาลที่มีเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ทันสมัย อีกทั้งยังมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาและดูแลทุกคนด้วยความเต็มใจ ซึ่งทำให้หลายคนยอมจ่ายแพงเพื่อแลกกับบริการที่ดี และมีคุณภาพ

ปัจจุบันเมื่อพูดถึงโรงพยาบาลเอกชนเห็นได้ชัดว่า มีการแข่งขันกันหนักเอาเรื่องเหมือนกัน ซึ่งงานบริการถือว่าเป็นจุดขายของสถานบริบาลชัดเจน ดังนั้น จำนวนผู้มาใช้บริการจะใช้จุดนี้เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจเข้ามาใช้บริการอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้เทคโนโลยีต่าง ๆ ยังเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่หลายคนใช้ตัดสินใจเลือกรับการรับรักษา หรือเลือกเดินทางไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาเรื่องต่าง ๆ 

Categories
รวมบทความ

5 อันดับ จุดชมวิวในไทย รับประกันได้ภาพสวยแน่นอน

จุดชมวิว
5 อันดับ จุดชมวิวในไทย รับประกันได้ภาพสวยแน่นอน

การได้ดูวิวสวย ๆ ยามเช้า และยามเย็น จากจุดแลนด์มาร์คที่ได้ชื่อว่า จุดชมวิว จึงถือว่าเป็นการพักผ่อนไปในตัวด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งในประเทศไทยก็มีจุดชมวิวสวย ๆ มากมายหลายแห่ง และมีทั้งวิวธรรมชาติ รวมถึงวิวอาคารบ้านเรือน แต่ไม่ว่าจะเป็นวิวแบบไหน ความรู้สึกที่ได้คือความสวยงาม และความประทับใจแน่นอน

ถ้าพูดถึง จุดชมวิว ในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ 

อย่างที่ได้บอกไปว่า จุดชมวิว หรือ VIEW POINT ถือว่าเป็นส่วนสำคัญของแหล่งท่องเที่ยว หรืออาคารนั้น ๆ ซึ่งนอกจากมีจุดชมวิวสวย ๆ ตามธรรมชาติแล้ว ยังมีแบบตึกสูงอีกด้วย ซึ่งแต่ละแบบสามารถสร้างความรู้สึก และความประทับใจแตกต่างกันไป แต่ภาพรวมแล้ว ภาพวิวสวย ๆ ที่อยู่เบื้องหน้าของทุกคนสามารถเพิ่มบรรยากาศดี ๆ และชาร์จพลังให้ทุกคนได้แน่นอน

5 อันดับแหล่งชมวิวที่ต้องไปดูความสวยงามด้วยตัวเอง

ซึ่งถ้าพูดถึง จุดชมวิว แน่นอนว่าประเทศไทยมีจุดชมวิวแนะนำหลายแห่ง โดยแต่ละแห่งต่างให้ภาพความสวยงามแตกต่างกันออกไป แต่ในวันนี้ขอแนะนำ 5 อันดับ จุดวิวพอยท์ ที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง บางแห่งสามารถดูพระอาทิตย์ขึ้น และตกได้ และบางแห่งจัดว่าเป็นสถานที่วัดใจของใครหลายคนไปในตัวดังนี้ 

1.  ภูกระดึง

จุดชมวิว
ภูกระดึง

สถานที่ท่องเที่ยวกางเต็นท์ยอดฮิตของจังหวัดเลย ถึงแม้ว่าการเดินทางไปถึงจุดกางเต็นท์ เล่นเอานักท่องเที่ยวบ่นระงม และตามคำบอกเล่าถึงการเดินทางมาเที่ยวพร้อมกับคนรัก ที่นี่คือสถานที่พิสูจน์รักแท้ที่ดีทีเดียว แต่เมื่อเดินทางไปถึงยอดจุดกางเต็นท์ และได้ไปอยู่ที่จุดชมวิวสวย ๆ อาการเหนื่อยล้าจะหายไปเป็นปลิดทิ้ง เพราะทั้งแสงแรกของวัน และแสงสุดท้ายของวัน ที่ทอแสงเป็นสีส้มตรงขอบฟ้า จะเพิ่มความสวยงามตามธรรมชาติ ต่อหน้าทุกคนทันที

2.  เสม็ดนางชี 

จุดชมวิว
เสม็ดนางชี

อีกหนึ่งสถานที่ชมวิวสุดฮิต และกำลังมาแรงแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่จังหวัดพังงา โดยในปัจจุบันถือว่าเป็นจุดชมวิวที่สร้างความประทับใจได้ ทั้งวิวพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตก นอกจากนั้นหากได้ขึ้นไปพักสักคืนวิวในช่วงกลางคืนที่มีแสงจันทร์สาดส่องกระทบผิวน้ำทะเล ท่ามกลางภูเขาที่ล้อมรอบบริเวณ รับรองได้ว่าสวยมากจริง ๆ ส่วนที่พักมีทั้งจุดกางเต็นท์ แบบรีสอร์ต หรือแบบกระท่อมบนเขา แต่ทุกแบบรับรองว่าได้วิวหลักล้านเหมือนกัน

3.  แหลมพรหมเทพ

จุดชมวิว
แหลมพรหมเทพ

ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องของวิวทั้งพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกดินในจังหวัดภูเก็ต จากภาพของแหลมที่ทอดยาวไปในทะเล พร้อมกับต้นตาลสูงที่โยกไปตามแรงลม ซึ่งให้เสียงคล้ายดนตรีประสาน รวมกับเสียงลม และเสียงคลื่นที่ซัดเข้ามา ยิ่งเพิ่มความสุขให้กับการชมวิว และพักผ่อนมากขึ้นทันที แถมการชมวิวสามารถมาเก็บภาพความประทับใจแบบฉายเดี่ยว หรือมาคู่ รวมถึงมาแบบกลุ่มเพื่อนก็ดี

4.  มหานครสกายวอล์ค

จุดชมวิว
มหานครสกายวอล์ค

ข้ามมาชมวิวบนตึกกันบ้าง และแน่นอนว่าจะไม่พูดถึง มหานครสกายวอล์ค คงเป็นไปไม่ได้ เพราะไฮไลท์อยู่ที่พื้นกระจกขนาดใหญ่ที่สุดของโลก บนชั้นที่ 78 ทำให้มองเห็นวิวสวย ๆ ของเมืองกรุงได้ครบ 360 องศา ส่วนบัตรค่าเข้าวันจันทร์ – ศุกร์ ราคาผู้ใหญ่จะเริ่มต้นที่ 520 บาท ส่วนเด็กอายุ 3 – 15 ปี รวมถึงผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไปจะเริ่มต้นที่ 250 บาท และในวันเสาร์ – อาทิตย์ ราคาผู้ใหญ่จะเริ่มต้นที่ 850 บาท ส่วนเด็กอายุ 3-15 ปี รวมถึงผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไปจะเริ่มต้นที่ 250 บาท ทั้งนี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 11.00-21.00 น.

5.  ตึกใบหยก

จุดชมวิว
ตึกใบหยก

จุดชมวิวในเมืองกรุงที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เนื่องจากที่นี่คือจุดชมวิวรอบเมือง 360 องศา โดยความโดดเด่นของที่นี่ไม่ได้จบแค่ชมวิวเท่านั้น แต่ยังมีมื้ออาหารอร่อย ๆ คอยเพิ่มบรรยากาศชมวิวรอบเมืองกรุงให้ทุกท่านอย่างดีอีกด้วย โดยราคาชมวิวพ่วงบุฟเฟ่ต์อาหารจะเริ่มต้นที่ 950 บาท โดยจะเปิดให้บริการในเวลา 17.00 – 19.00 น. และ 19.00 – 21.00 น. ส่วนใครที่ต้องการชมวิวสามารถขึ้นชมความสวยงามได้ถึง 24.00 น.

สำหรับจุดพอยต์ชมวิวทั้ง 5 แห่ง ที่พูดถึง จัดว่าเป็นจุดชมวิวที่หลายคนเคยสัมผัสความสวยงามมาแล้ว ดังนั้น ทั้ง 5 แห่งที่พูดถึงน่าจะเป็นจุดชมวิวที่สามารถช่วยให้หลายคนตัดสินใจได้ว่าสนใจชมวิวในแบบไหนเป็นพิเศษ ตามความชอบของแต่ละคน

Categories
รวมบทความ

5 อันดับ ดาราไทยผลงานดีอนาคตไกลในต่างแดน

ดารา
5 อันดับ ดาราไทยผลงานดีอนาคตไกลในต่างแดน

ถ้าพูดถึง ดารา ของไทยในเวลานี้หลายคนมีพัฒนาการทางการแสดงดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตอาจจะไม่ได้จบแค่การเป็นนักแสดงในไทยเท่านั้น แต่มีแนวโน้มไปได้ไกลในวงการบันเทิงระดับนานาชาติสูงมาก ซึ่งปัจจุบันมีหลายคนร่วมเป็นนักแสดงของค่ายดังในประเทศต่าง ๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

ดาราหลายคนมีโอกาสเซ็นสัญญากับต่างประเทศ

การเซ็นสัญญากับค่ายต่าง ๆ ในต่างประเทศไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ ถึงแม้จะเป็น ดารา คนดังในประเทศไทยมาก่อนก็ตาม แต่ฝีมือการแสดงร่วมกับมีแนวโน้มเจาะตลาดงานละคร ซีรีย์ และหนังในประเทศนั้น ๆ ได้ไกล ถึงจะมีโอกาสได้รับสัญญาทำงานระยะยาว ซึ่งปัจจุบันมีดาราไทยโกอินเตอร์อยู่ไม่น้อย หลายคนกำลังทำงานใน ฮ่องกง, จีน หรือบางคนมีโอกาสร่วมงานกระทบกับดาราชั้นนำในฮอลลีวู้ดมาแล้วหลายเรื่องด้วยกัน

นอกจากนั้นยังมีงานในต่างประเทศให้เห็นกันต่อเนื่อง

จะเห็นว่า ดารา ไทยหลายคนหายหน้าหายตาไปจากวงการไทยไปนาน แต่กลับมีผลงานหลายเรื่องติดต่อกันในประเทศต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง และยังได้ชื่อว่าเป็นขวัญใจของแฟนละคร และซีรีย์ในประเทศนั้น ๆ อีกด้วย ซึ่งการันตีว่าแต่ละคนมีฝีมือการแสดงและผลงานยอดเยี่ยมสุด ๆ ถึงขั้นขึ้นแท่นเป็นนักแสดงไทยสุดฮอตในต่างประเทศอีกด้วย

สำหรับ 5 นักแสดงไทยที่ประสบความสำเร็จในต่างแดนคือ

1.  จา – พนม ยีรัมย์

ดารา
จา – พนม ยีรัมย์

คนนี้ถือว่าคุ้นหน้าคุ้นตากันอย่างดี กับสุดยอดดาราราชานักบู๊ของไทย ที่มีโอกาสกระทบไหล่คนดังในระดับฮอลลีวู้ดมาแล้วหลายคนด้วยกัน แถมยังเคยร่วมแสดงนักฟอร์มยักษ์อย่าง Fast and Furious ซึ่งมี วิน ดีเซล, เดอะ ร็อค และ พอล วอล์คเกอร์ เป็นนักแสดงนำ นอกจากนั้นเจ้าตัวยังโลดแล่นในเวทีฮอลลีวู้ดหลายเรื่องด้วยกัน อย่างเช่น ยิปมัน รวมถึง Monster Hunter จนทำให้ได้รับฉายาว่า “โทนี่ จา”

2.  ไมค์ – พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล

ดารา
ไมค์ – พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล

ถึงแม้ว่าในไทยนอกจากเพลงในหลายปีที่ผ่านมา หนุ่มไมค์อาจจะไม่ค่อยมีผลงานให้เห็นกันมากนัก แต่สำหรับผลงานในประเทศจีน เขาไม่เคยเป็นรองใครแน่นอน เพราะทำงาน และลุยงานที่นั่นมานานหลายปี แถมยังมีแฟนคลับแน่นมาก จนได้รับรางวัล Overseas Outstanding All-Artist Award อีกทั้งยังคงมีละครในประเทศจีนอย่างไม่ขาดสายอีกด้วย

3.  ปอย – ตรีชฎา เพชรรัตน์

ดารา
ปอย – ตรีชฎา เพชรรัตน์

หลังจากหายหน้าหายตาไปจากวงการบันเทิงบ้านเราไปนาน เวลานี้สาวปอยกลับมาพร้อมกับความสำเร็จอย่างมาก เมื่อความสามารถของเธอได้แสดงออกมาให้ทุกคนเห็นแล้วว่า เธอไม่ได้เป็นแค่สายนางงามเท่านั้น แต่เรื่องการแสดงไม่เป็นรองใครแน่นอน อีกทั้งเธอยังแสดงพลังให้หลายคนมองข้ามขีดจำกัดคำว่าเพศสภาพไปได้เลย จากผลงานการแสดงระดับโกอินเตอร์ครั้งแรกในเรื่อง “The White Strom” ซึ่งเจ้าตัวมีโอกาสแสดงร่วมกับ กู่เทียนเล่อ โดยเรื่องนี้เจ้าตัวทำไว้ดีมาก จนในที่สุดดาราสาวประเภทสองสุดสวยอย่างสาวปอย เริ่มมีผลงานการแสดงออกมาให้เห็นกันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นซีรีย์ และหนังอีกหลายเรื่องของฮ่องกง แถมกระแสยังดีต่อเนื่องอีกด้วย

4.  บี้ เคพีเอ็น หรือ ธรรศภาคย์ ชี

ดารา
บี้ เคพีเอ็น หรือ ธรรศภาคย์ ชี

สำหรับดาราคุณพ่อลูกสองคนลูกครึ่งไทย-ไต้หวันคนนี้ยังคงฮอตปรอทแตกในจีนเหมือนเดิม ส่งผลให้ผลงานในไทยไม่ค่อยเห็นหน้าเขาเท่าไหร่นัก โดยผลงานที่ทำให้เขาดังเป็นพลุแตกคือ Cinderella Chef โดยวันแรกที่ออนแอร์ ทำยอดวิวถล่มทลายไปถึง 100 ล้านวิว ภายในเวลาเพียงแค่ 3 ชั่วโมงแรกเท่านั้น แถมหนุ่มคนนี้ยังร้องเพราะอีกด้วยนะ

5.  ปู – ไปรยา สวนดอกไม้

ดารา
ปู – ไปรยา สวนดอกไม้

สำหรับสาวมั่นคนนี้แม้ว่าไม่ได้ร่วมแสดงละคร ซีรีย์ หรือหนัง แต่เส้นทางโกอินเตอร์ของเธอคือ บทบาทของนางแบบสาวในระดับอินเตอร์เนชันแนล หลังจากเซ็นสัญญากับเอเจนซี่ในอเมริกาชื่อดัง ทำให้มักได้เห็นสาวคนนี้ปรากฏตัวบนรันเวย์บ่อย ๆ นอกจากนั้นเธอยังได้ชื่อว่าเป็นทูตของ UNHCR อีกด้วย

สำหรับทั้ง 5 รายชื่อแม้ว่าบางคนไม่ได้เล่นละคร แต่มีผลงานในต่างแดนน่าประทับใจ และถือว่าเป็นตัวแทนของคนไทยมานาน ส่วนในปัจจุบันนี้มี ดารา ไทยหลายคนที่เริ่มมีโอกาสไปได้สวยในวงการบันเทิงของประเทศอื่น แต่ต้องรอลุ้นกันต่อว่าใครจะได้รับโอกาสนั้นเป็นรายต่อไป

Categories
รวมบทความ

5 อันดับ ค่ายรถยนต์ไฟฟ้ายอดขายสูงสุดในโลก

รถยนต์
5 อันดับ ค่ายรถยนต์ไฟฟ้ายอดขายสูงสุดในโลก

ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถพลังงานไฟฟ้า กำลังเป็นกระแสน่าสนใจ หลังจากค่ายผลิตรถยนต์หลายแห่งทั่วโลกเริ่มปรับตัว และกำลังเน้นแผนการตลาดผลิตรถไฟฟ้ามากขึ้น ส่วนการใช้งานในปัจจุบันมีหลายเสียงพูดถึงข้อดีและข้อเสียอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เจ้ารถยนต์ตัวนี้กลายเป็นตัวเลือกใหม่ที่หลายคนให้ความสนใจ แต่ก่อนตัดสินใจควักเงินจองรถ หรือซื้อทันที ควรศึกษาและทำความเข้าใจรถยนต์ตัวนี้อย่างละเอียดและรอบคอบเสียก่อน 

ยอดขายรถ EV ในอนาคต Tesla อาจจะไม่ใช่เจ้าตลาดอีกต่อไป

รถยนต์ ไฟฟ้า มีตัวเลือกน่าสนใจ และในตลาดมีการแข่งขันสูงมาก เนื่องจากไม่ได้มีแค่ เทสลา แค่ค่ายเดียวเท่านั้นที่บุกตลาดรถพลังงานไฟฟ้า แต่ยังมีอีกหลายค่ายกำลังลุยตลาดใหม่เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น โฟล์คสวาเกน , เอสเอไอซี , กลุ่มพันธมิตรเรโนลด์ นิสสัน -มิตซูบิชี และ บีเอ็มยู

สำหรับ 5 ค่ายรถพลังงานไฟฟ้าที่มียอดขายสูงในเวลานี้มีอะไรบ้าง 

ค่ายรถยนต์ไฟฟ้า ในขณะนี้ยังมีอีกหลายค่ายที่พร้อมจะงัดข้อเสนอดี ๆ รวมถึงผลิตสินค้าที่น่าสนใจ เพื่อแย่งตำแหน่งตลาด EV Car ในอนาคต หลังจากหลาย ๆ ประเทศเริ่มรณรงค์การใช้รถพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น และน่าจะเข้ามาทดแทนรถพลังงานน้ำมัน หรือใช้พลังงานก๊าซอย่างถาวร ซึ่งล่าสุดมีการจัดอันดับ 5 ค่ายรถยนต์ไฟฟ้า ที่ขายดีที่สุดดังนี้

1.  เทสลา (Tesla)

รถยนต์
เทสลา (Tesla)

ค่ายรถพลังงานไฟฟ้าสัญชาติอเมริกันยังคงยึดตำแหน่งเบอร์ 1 ของตลาดรถไฟฟ้า หลังจากทำยอดขายทั่วโลกไปทั้งหมด 499,535 คัน หรือคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ 16% ปัจจุบันเทสลายังคงเดินหน้าผลิตรถยนต์ออกมาสู่ตลาด เพื่อเป็นทางเลือกใหม่และตอบสนองการใช้งานของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น เนื่องจากประหยัดงบในกระเป๋าแล้ว ทางด้านเทสลายังมีวิวัฒนาการที่ดีอย่างมาก เพราะบางรุ่นออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้เจ้าของรถ ด้วยการเพิ่มระบบ AI เข้ามาช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่มากยิ่งขึ้น

2.  โฟล์คสวาเกน (Volkswagen)

รถยนต์
โฟล์คสวาเกน (Volkswagen)

ค่ายรถสายเลือดเยอรมันซึ่งมักจะคลอดรถคูเป้ (Coupe) ออกมาให้สาวกติดตามและจับจอง แต่ล่าสุดพวกเขาเริ่มให้ความสนใจตลาดรถพลัง EV มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งวางแผนลุยตลาดรถพลังงานไฟฟ้า วัดกับ เทสลา และค่าย ๆ อื่นทันที โดยในปัจจุบันทางด้านผลงานในตลาดรถไฟฟ้าถือว่าน่าพอใจ หลังจากปล่อยรถไปแล้วทั้งหมด 421,591 คัน โดยแย่งตลาดมาได้ถึง 13 เปอร์เซ็นต์ เรียกว่าตามหลังเทสลาอีกไม่กี่ก้าวเท่านั้น 

3.  เอสเอไอซี (SAIC)

รถยนต์
เอสเอไอซี (SAIC)

ใครจะคิดว่าค่ายรถจากประเทศจีนซึ่งหลายคนมองว่าเป็นคู่แข่งนอกสายตา และไม่น่าจะมาไกลในตลาดรถระดับโลกได้สำเร็จ แต่พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า สามารถสร้างความเชื่อมั่นจากลูกค้าทั่วโลกได้ไม่แพ้รถค่ายดังจากยุโรปหรืออเมริกา จะสามารถแบ่งตลาดจากการจำหน่ายรถไฟฟ้าไปได้ถึง 9 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าแผนการเจาะตลาดของค่ายนี้มาถูกทางอย่างมาก หลังจากส่งรถถึงมือลูกค้าไปแล้วมากถึง 272,210 คัน และมีข่าวแว่วว่าพวกเขายังต้องการเจาะตลาดรถทางเลือกใหม่ ของคนรักษ์โลกอย่างต่อเนื่องเพิ่มเติมอีกด้วย เพื่อแบ่งพื้นที่ในตลาดรถไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น

4.  กลุ่มพันธมิตรเรโนลต์-นิสสัน-มิตซูบิชิ (Renault-Nissan-Mitsubishi Aliance)

รถยนต์
กลุ่มพันธมิตรเรโนลต์-นิสสัน-มิตซูบิชิ (Renault-Nissan-Mitsubishi Aliance)

สำหรับกลุ่มพันธมิตรกลุ่มความร่วมมือ ฝรั่งเศส และ ญี่ปุ่น จัดว่าเป็นอีกหนึ่งค่ายรถที่ประสบความสำเร็จในการเจาะตลาดรถไฟฟ้าไม่แพ้เจ้าอื่น หลังมียอดขายทั้งหมด 226,975 คัน ทั่วโลก คิดเป็นสัดส่วนจากการตลาดทั้งหมด 7 เปอร์เซ็นต์ โดยล่าสุดบอร์ดบริหารยังเดินรุดหน้าเจาะตลาดรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับคนใช้รถในยุคใหม่อีกค่าย

5.  บีเอ็มดับเบิ้ลยู (BMW)

รถยนต์
บีเอ็มดับเบิ้ลยู (BMW)

ทางด้านค่ายรถจากเยอรมัน ยังคงต้องพยายามงัดไม้เด็ดต่อไป เพราะผลประกอบการขายรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่น่าสนใจ หลังการเจาะตลาดรถไฟฟ้ายังไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนัก ถึงแม้จะติดท็อป 5 มียอดขายสูงก็ตาม เนื่องจากว่ามียอดขายไปทั้งหมด 195,979 คัน ซึ่งคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดแล้วอยู่ที่ 6 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น 

สำหรับ 5 ค่าย รถที่กำลังผลิตรถไฟฟ้า ที่กล่าวถึงมาทั้งหมด ยังต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หลายอย่าง เพื่อโอกาสเจาะตลาดและกลุ่มผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น โดยในส่วนของเทสลาซึ่งตอนนี้แม้ว่ายังคงรั้งอันดับ 1 ค่ายรถ แต่ในอนาคตพวกเขาอาจจะโค่นจากทำเนียบไม่ยาก เพราะล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมว่า อีลอน มัสก์ กำลังเจอตออย่างจัง เมื่อ ปีเตอร์ โรว์ลินสัน อดีตหัวหน้าวิศวกรของ เทสลา เตรียมตัวสร้างรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ขึ้นมา ในชื่อ ลูคิด มอเตอร์ โดยมีแนวคิดว่าจะพัฒนารถยนต์ EV ไปได้ไกล และเร็วกว่าเดิม 

Categories
รวมบทความ

5 อันดับ เมืองร้าง ที่สวยที่สุดในโลก

เมืองร้าง
5 อันดับ เมืองร้าง ที่สวยที่สุดในโลก

ถ้าจะพูดถึง เมืองร้าง สิ่งที่คิดถึงเป็นอันดับแรกคงเป็น ซากปรักหักพัง แหล่งอารยธรรมเก่าๆ ในสมัยโบราณ ณ กาล ที่ยังคงหลงเหลือไว้ให้เราได้เห็นในปัจจุบัน เช่น เศษซากกำแพงเมือง สิ่งของต่าง ๆ หรืออะไรก็ตามแต่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดกำเนิดที่ทำให้เรามีปัจจุบันนี้ แม้จะถูกทิ้งเป็นเมืองร้างแต่ก็ยังมีมนต์เสน่ห์ ความขลัง ความสวยงาม ไว้ให้เราได้ชื่นชม

5 อันดับ แหล่งเมืองร้างเก่าแก่ที่สวยงามที่สุด 

หากจะพูดถึง เมืองร้าง อีกแง่มุมหนึ่งที่แฝงไปด้วยความน่ากลัว เนื่องจากบางพื้นที่ก็ถูกปล่อยทิ้งร้างไม่ให้เข้าไป เป็นพื้นที่อันตราย เป็นพื้นที่ที่มีคนตายมากมาย สร้างร่องรอยความเจ็บปวดไว้มากมาย แต่ก็ยังมีเมืองร้างอีกมากที่เป็น เมืองร้างที่สวยงาม มีประวัติศาสตร์ให้ได้เรียนรู้ เป็นแหล่งรวมอารยธรรมเก่าแก่ที่มีคุณค่า ให้คนรุ่นใหม่ได้รับรู้ ชื่นชม และภาคภูมิใจ กับสิ่งเหล่านั้น ปัจจุบันเราค้นพบ เมืองร้างเมืองโบราณที่เป็นประวัติศาสตร์ เพิ่มขึ้น นั้นก็บ่งบอกได้ว่า คนรุ่นใหม่ในปัจจุบันก็อยากจะรับรู้เรื่องราวของคนยุคก่อนเช่นกัน

1.  TEOTIHUACAN ประเทศเม็กซิโก

เมืองร้าง
TEOTIHUACAN ประเทศเม็กซิโก

TEOTIHUACAN หรือเรียกว่า “CITY OF THE GODS” ที่สถิตของเหล่าทวยเทพ เป็นเมืองอารยธรรมแอซเท็กโบราณ และมีพีระมิดที่สวยงามมาก “PYRAMID OF THE SUN” เป็นพีระมิดที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก อีกด้วย

2.  CTESIPHON ประเทศอิรัก

เมืองร้าง
CTESIPHON ประเทศอิรัก

เป็นเมืองอันยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุคอารยธรรมเมโสโปเตเมีย เป็นเมืองหลวงที่มีความรุ่งเรืองมากของอาณาจักรเปอร์เซียในยุคสมัยนั้น และมีพระราชวังที่งดงาม ตั้งอยู่ริมฝั่งซ้ายของแม่น้ำไทกริส ซึ่งหลอมรวมอารยธรรมไว้หลากหลายแหล่ง จนในปี ค.ศ. 637 ก็ถูกทำลายโดยชาวอาหรับ เหลือไว้เพียงซากปรักหักพัง และกลายเป็นทะเลทราย ปัจจุบันตั้งอยู่ใกล้กับกรุงแบกแดด 

3.  ANI ประเทศตุรกี 

เมืองร้าง
ANI ประเทศตุรกี

เป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของอาณาจักรอาร์เมเนีย และของประเทศตุรกี ต่อมาถูกแผ่นดินไหวทำลายทุกอย่างไปหมดสิ้น จึงทำให้ผู้คนพากันอพยพออกไป

4.  PERSEPOLIS ประเทศอิหร่าน

เมืองร้าง
PERSEPOLIS ประเทศอิหร่าน

เป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก และเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเปอร์เซีย นอกจากนี้ยังมีศิลปะ และสถาปัตยกรรมที่งดงามตามแบบอาคิเมนิดด้วย ปัจจุบันได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1979 จาก UNESCO

5.  MACHU PICHU ประเทศเปรู

เมืองร้าง
MACHU PICHU ประเทศเปรู

มาชูปิกชู เป็นซากเมืองโบราณของอารยธรรมอินคา ล่มสลายด้วยสงครามการแย่งชิงบัลลังก์ในราชวงศ์และโรคระบาด เมืองลับแลนี้ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูง แต่ละด้านล้วนเป็นหน้าผาสูงชัน แลดูน่าหวาดเสียว

แม้ว่าทุกวันนี้เมืองร้างจะเป็นเพียงสถานที่รวมเศษซากปรักหักพัง ไว้ก็ตาม แต่สถานที่เหล่านั้นล้วนแฝงกลิ่นอายความเป็นอารยธรรมเก่าแก่ที่มีคุณค่าของคนรุ่นหลังไว้ด้วยเช่นกัน หากไม่มีเมืองร้างเหล่านั้น อาจไม่มีปัจจุบันที่ดีขึ้นแบบเช่นทุกวันนี้ก็เป็นได้

มนต์เสน่ห์ที่น่าชื่นชม

มนต์เสน่ห์ของ เมืองร้าง อยู่ที่ อารยธรรมเก่าแก่ ที่ยังคงหลงเหลือไว้ให้คนรุ่นใหม่ได้เห็น ในปัจจุบันผู้คนนิยมเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของเมืองร้าง รวมถึงแหล่งอารยธรรมเก่า ๆ และเที่ยวชมโบราณสถานมากขึ้น เนื่องจากเมืองร้างแต่ละที่นั้นมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นตามแต่ละยุคสมัย รวมถึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม หรือเป็นจุดแลนด์มาร์กสำคัญของแต่ละประเทศไปแล้ว

Categories
รวมบทความ

5 อันดับ เครื่องดูดฝุ่น ยอดฮิตในปัจจุบัน

5 อันดับ เครื่องดูดฝุ่น ยอดฮิตในปัจจุบัน

ปัจจุบัน เครื่องดูดฝุ่น (VACUUM CLEANER) ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่มีความจำเป็นต่อการทำความสะอาดบ้านอย่างมาก โดยประโยชน์หลัก ๆ คือ ช่วยให้การทำความสะอาดบ้านเป็นเรื่องง่าย และประหยัดเวลาไปในตัว แถมยังไว้ใจได้ว่าสะอาดทุกซอกทุกมุม โดยไม่ทิ้งฝุ่นไว้ให้ดูต่างหน้าเพิ่มเติม โดยการใช้งานง่ายมาก เพราะในปัจจุบันมีทั้งแบบใช้ไฟฟ้า และแบบไร้สาย 

เครื่องดูดฝุ่นทั้ง 5 แบบ ช่วยทุ่นเวลางานบ้านได้มากขึ้น

ทั้งนี้สำหรับการเลือกซื้อ เครื่องดูดฝุ่น ในปัจจุบันจะต้องคำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก เพื่อให้การซื้อ 1 ครั้งสามารถใช้ประโยชน์จาก อุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน สูงที่สุด รวมถึงไม่ทำให้รู้สึกว่าการลงทุนไม่คุ้มค่ามากนัก โดยในยุคนี้ เครื่องดูดฝุ่นยอดนิยม จะมีด้วยกันถึง 5 แบบ ซึ่งแต่ละแบบสามารถเพิ่มความสบายให้การทำงานง่ายมากขึ้น และง่ายมากขึ้นได้หลายเท่าตัว โดยมาดูกันต่อว่าในยุคนี้แบบไหนกำลังได้รับความนิยมมากที่สุด

1. แบบมือถือใช้แบตเตอรี่

เครื่องดูดฝุ่น
แบบมือถือใช้แบตเตอรี่

สำหรับเครื่องดูดฝุ่นประเภทนี้จะทำงานโดยแบตเตอรี่เหมือนกับโทรศัพท์ ซึ่งปัจจุบันมีหลายยี่ห้อ และหลายรุ่น โดยความน่าสนใจของแต่ละรุ่นจะแตกต่างกันพอสมควร แต่ง่ายต่อการพกพา และไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าให้ยุ่งยาก ส่วนประสิทธิภาพในการทำงานขึ้นอยู่กับฟังก์ชันที่มากับเครื่อง

2. เครื่องดูดฝุ่นอเนกประสงค์

เครื่องดูดฝุ่น
เครื่องดูดฝุ่นอเนกประสงค์

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกน่าสนใจของหลายคน เพราะตัวนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อดูดฝุ่นอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถอีกหลากหลาย อาทิเช่น ช่วยฆ่าเชื้อโรค พร้อมกับจัดการกับเจ้าไรฝุ่นไปในเวลาเดียวกัน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสุดคุ้มของคุณพ่อบ้าน และแม่บ้านสุด ๆ 

3. แบบโรบอท

เครื่องดูดฝุ่น
แบบโรบอท

ปัจจุบันเจ้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นหรือที่เรียกง่าย ๆ ว่าโรบอท เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ทางเลือกที่ได้รับความนิยมต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นอุปกรณ์จัดเก็บง่าย และที่สำคัญการใช้งานง่ายมากเพียงแค่กดปุ่มเปิด – ปิด เครื่องจะทำงานโดยอัตโนมัติ หรือบางรุ่นสามารถใช้คำสั่งให้ทำงานผ่านแอปพลิเคชันทางมือถือได้อีกด้วย 

4. เครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สาย

เครื่องดูดฝุ่น
เครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สาย

สำหรับเครื่องดูดฝุ่นแบบนี้เหมาะสำหรับบ้านใหญ่ ๆ แต่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้งาน หรือเพิ่มความปลอดภัยในระหว่างใช้งาน นอกจากนั้นบางรุ่นยังออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบอย่างเช่น สามารถใช้ภายในรถยนต์ได้เหมือนกับใช้ภายในบ้าน 

5. เครื่องดูดฝุ่นแบบปกติทั่วไป

เครื่องดูดฝุ่น
เครื่องดูดฝุ่นแบบปกติทั่วไป

เครื่องดูดฝุ่นแบบนี้ไม่จำเป็นต้องอธิบายกันยาว เพราะหลายคนคุ้นชินมานาน แต่ถือว่าเป็นแบบที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานสูงมาก ดังนั้น จึงเป็นอีกหนึ่งแบบที่ได้รับความนิยมจากคนใช้งานจริงมาอย่างยาวนาน 

เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของบ้าน

ทั้งนี้ภาพรวม เครื่องดูดฝุ่น คือ เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มักนิยมซื้อติดบ้าน และสามารถช่วยลดระยะเวลาในการทำความสะอาดบ้านของคุณได้อย่างง่ายดาย ที่สำคัญบางรุ่นยังสามารถใช้สำหรับดูดฝุ่นที่เกาะติดตามผนังบ้าน ซอกหลืบของโซฟา หรือบริเวณต่าง ๆ ภายในบ้าน รวมถึงผ้าม่าน และมุ้งลวดได้อีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นหลังจากใช้เครื่องดูดฝุ่นจัดการกับเศษผง และฝุ่นต่าง ๆ บนพื้นเรียบร้อยแล้ว การถูบ้านถือว่าเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนช่วยให้บ้านสะอาดมากยิ่งขึ้น

Categories
รวมบทความ

5 อันดับ รองพื้นใช้ดี ราคาไม่แพง

รองพื้น
5 อันดับ รองพื้นใช้ดี ราคาไม่แพง

การแต่งหน้าของสาว ๆ อาจจะขาดรองพื้นไปเสียไม่ได้ เพราะสิ่งนี้คือเครื่องสำอางที่เพิ่มความเด้ง ความปังให้ใบหน้า รับกับลุคของแต่ละคน โดยมีข้อดีคือ ช่วยปกปิดริ้วรอย หรือแผลเป็นบนใบหน้าให้เรียบเนียน ซึ่งปัจจุบันมีหลายชนิดให้เลือกอีกด้วย แต่ที่แน่ ๆ คือสิ่งนี้สำหรับสาว ๆ ขาดไม่ได้แน่นอน

ข้อควรรู้ก่อนหยิบ รองพื้น มาใช้

ถึงแม้ว่า รองพื้น เป็นสิ่งสำคัญในการแต่งหน้า แต่สิ่งที่ควรรู้ก่อนหยิบมาใช้หรือซื้อ คือ รองพื้นมีทั้งเนื้อแมตต์ เนื้อน้ำ และที่สำคัญมีหลายสีให้เลือก โดยเริ่มตั้งแต่สีขาวออร่าไปจนถึงสีเข้มสุด ๆ ดังนั้น ก่อนจ่ายตังค์ควรเทสต์สีให้ดีก่อน เพื่อป้องกันการใช้แล้วหน้าลอย ไม่เหมาะกับสีผิว โดยปัจจุบันนี้มีตัวช่วยให้เลือกสีของรองพื้นง่ายมากขึ้นนั่นก็คือ “อันเดอร์โทน” ส่วนเรื่องของสภาพผิวถือว่ามีความสำคัญในการเลือกซื้อด้วยเช่นกัน

ของดีไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงเสมอไป 

แน่นอนว่าหลายคนมองว่า รองพื้น ที่ดีต้องมีราคาสูง และเป็นต้องเป็นแบรนด์ระดับไฮเอนด์เท่านั้น แต่ในปัจจุบัน FOUNDATION ราคาหลักร้อยถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีของสาว ๆ เช่นเดียวกัน เนื่องจากการแข่งขันในวงการเครื่องสำอางมีสูงมาก ส่งผลให้หลายแบรนด์เลือกผลิตเครื่องสำอางราคาหลักร้อยออกมามากขึ้น ส่วน 5 อันดับ ที่สาว ๆ นิยมใช้ และราคาไม่แพงมีดังนี้

1.  MAYBELLINE 

รองพื้น
MAYBELLINE

ถ้าพูดถึงผลิตภัณฑ์จากแบรนด์นี้ เชื่อว่าหลายคนคงให้ความมั่นใจ เพราะผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐานระดับโลกมายาวนาน และสำหรับรุ่น FIT ME MATTE+PORELESS FOUNDATION จัดว่าเป็นรองพื้นที่มาแรง และสาว ๆ เลือกใช้เยอะมาก เนื่องจากเป็นเนื้อแมตต์ที่มีความเบา แต่ประสิทธิภาพในการปกปิด และเพิ่มความเนียนไม่เป็นรองใครเลย โดยสามารถควบคุมความมันได้ดี มีเฉดสีให้เลือกมากถึง 20 เฉดสี ทำให้การแต่งหน้าของสาว ๆ สนุกมากยิ่งขึ้น ในราคาเริ่มต้นที่ 249 บาท 

2.  L’OREAL PARIS 

รองพื้น
L’OREAL PARIS 

อีกหนึ่งแบรนด์ดังระดับโลกซึ่งมาพร้อมกับผลิตภัณฑ์คุณภาพ ดังนั้นในส่วนของรองพื้นรุ่น TRUE MATCH LIQUID FOUNDATION จากค่ายนี้ถือว่าฮิตติดลมบนมานาน เพราะช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้น อิ่มน้ำตลอดทั้งวัน นอกจากนั้นยังเหมาะกับสาว ๆ ทุกสภาพผิวอีกด้วย ทำให้รองพื้นเนื้อแมตต์ และเนื้อน้ำรุ่นนี้ เป็นที่ถูกใจสาว ๆ ทันที โดยมี 12 เฉดสีให้เลือกในราคาเริ่มต้นที่ 299 บาท 

3.  REVLON

รองพื้น
REVLON

ถ้าพูดถึงแบรนด์นี้คงเป็นที่หนึ่งในใจสาว ๆ หลายคนมานาน ทำให้ COLORSTAY MAKEUP จึงเป็นตัวเลือกที่สาว ๆ ตามหาทันที ซึ่งรุ่นนี้จะมาพร้อมกันกันแดด SPF 15 นอกจากนั้นยังมีความทานทนจากแสงแดด น้ำ เหงื่อ ทำให้หน้าสวย ๆ ของสาว ๆ ปังตลอดวันตลอด 24 ชั่วโมง และช่วยบำรุงผิวให้สุขภาพดีสุด ๆ ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติที่มีทั้งแร่ธาตุ วิตามินอี ช่วยเติมความแข็งแรงให้ผิวหน้า โดยมี 7 เฉดสีให้เลือก และที่สำคัญไม่มีส่วนผสมของสารที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ซึ่งเหมาะอย่างมากกับคนผิวมัน และผิวผสม ในราคาเริ่มต้นที่ 551 บาท 

4.  SRICHAND 

รองพื้น
SRICHAND

ยี่ห้อเครื่องสำอางสัญชาติไทยที่ยืนระดับแถวหน้าของวงการความสวยความงาม และยิ่งรุ่น ENCHANTED COVER PERFECT FOUNDATION ถือว่าเป็นรุ่นมาแรงที่บรรดาสาว ๆ ยกให้เป็นราชินีแห่งรองพื้นกันเลยทีเดียว เนื่องจากเนื้อกึ่งแมตต์ที่สามารถเพิ่มความแพงให้ใบหน้าสาว ๆ ได้ดี ด้วยการกลบ ลบ เลือนจุดต่าง ๆ บนใบหน้าได้เป็นอย่างดี แถมเนื้อบางเบา สบาย และยังใช้ง่ายโดยไม่ต้องเกลี่ยให้เปลืองแรง นอกจากนั้นยังติดทนนาน ควบคุมความมันได้ดี และที่สำคัญมีกันแดดสูงถึง SPF 35 PA++ โดยมีทั้งหมด 4 เฉดสี เหมาะกับทุกสภาพผิว ในราคาเริ่มต้น 188 บาท 

5.  KMA 

รองพื้น
KMA 

ตัวช่วยเพิ่มความสวยงามให้ใบหน้าที่มาแรงติดอันดับต้น ๆ ของรองพื้นอีกยี่ห้อ โดยเวลานี้ KMA พร้อมนำเสนอรองพื้นในรุ่น WONDER LOOK FOUNDATION โดยความน่าสนใจอยู่ที่เนื้อแมตต์ และ FLUID พร้อมกับสารสกัดจากธรรมชาติ ช่วยเพิ่มบำรุง และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติกันน้ำ และควบคุมความมันได้ตลอด 12 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันผิวจากแดดด้วย SPF30 PA++ ทั้งนี้เหมาะกับทุกสภาพผิว ส่วนเฉดมีทั้งหมด 3 เฉดสี ส่วนเรื่องราคาเริ่มต้นที่ 350 บาท 

สำหรับรองพื้นทั้ง 5 ยี่ห้อที่พูดถึง ถือว่าอยู่ในระดับที่จับต้องได้ และสามารถเพิ่มความสวย ความปัง และเพิ่มความแพงให้สาว ๆ ได้อย่างดี นอกจากนั้นยังสามารถเลือกซื้อได้ง่าย ๆ สะดวกสบายที่ร้านค้าออนไลน์ หรือร้านเครื่องสำอาง และห้างสรรพสินค้าทั่วไป