ถ้าพูดถึงละครเชื่อว่าละครไทย ต้องเป็นสิ่งที่ฮิตไม่แพ้ซีรีส์จากต่างประเทศแน่นอน เพราะมีหลายเรื่องสร้างยอดวิว และเรียกเรตติ้งให้ช่องมาแล้วอย่างต่อเนื่อง แถมยังขึ้นเวทีกวาดรางวัลต่าง ๆ มาแล้วหลายครั้ง ส่งผลให้ท้ายที่สุดกลายเป็นกระแสติดลมบน จนได้โกอินเตอร์ไปหลายประเทศ ซึ่งหลายเรื่องถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปออกอากาศที่นั่น หรือบางเรื่องถูกซื้อลิขสิทธิ์ขอรีเมค เพื่อปรับบท เลือกตัวพระ – นางให้เข้ากับประเทศนั้น ๆ

ละครมาแรงเรียกเรตติ้งได้ถล่มทลายตั้งแต่วันแรกที่ออนแอร์

ทั้งนี้ถ้าพูดถึงละครที่ได้รับความสนใจจากแฟน ๆ อย่างล้นหลาม และกลายเป็นกระแสให้พูดถึงทั่วบ้านทั่วเมืองมีหลายเรื่องด้วยกัน แถมแต่ละเรื่องกลายเป็นกระแสละครติดเทรนด์ สนั่นทวิตเตอร์ หรือแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ติดต่อกันหลายแฮชแท็ก ถึงขั้นทางผู้จัด และทางช่องต้องมีแคมเปญเพิ่มความสุขให้คนดูเพิ่มขึ้นหลายแคมเปญด้วยกัน ส่วนในปัจจุบันยังมีแฟน ๆ พูดถึงเหมือนเดิม แม้ว่าถึงตอนอวสานไปแล้วก็ตาม นอกจากนั้นยังได้ชื่อว่าละครไทยโกอินเตอร์อีกด้วย

ละคร 5 เรื่องที่กำลังพูดถึงมีอะไรกันบ้าง

สำหรับ 5 ละครไทยที่สามารถไปได้ไกลถึงระดับนานาชาติ ถือว่าเรียกเรตติ้งดีตั้งแต่ออนแอร์ในไทย จนกลายเป็นละครฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง และเคยสร้างกระแสถนนโล่งในกรุงเทพมาแล้ว เพราะทุกคนต้องรีบกลับบ้านไปดูทุกวันที่ออกอากาศ ส่วนกระแสในโลกโซเชียลได้รับการพูดถึงอย่างมากเช่นเดียวกัน จนกระทั่งได้รับความสนใจจากต่างชาติ จนถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปออนแอร์ที่ต่างประเทศ

5 ละครฮิตกระแสดีจนดังไกลไปต่างแดนมีดังนี้

1. บุพเพสันนิวาส

หลายคนคงจำกันได้ว่าละครเรื่องนี้กันได้ดี เพราะกลายเป็นกระแสติดลมไปนานพอสมควร จากบทของ เกตุสุรางค์ นักศึกษาสาวที่ต้องย้อนกลับไปสมัยอยุธยา จากอุบัติเหตุในวันเดียวกับที่อีกฟากของการะเกด กำลังโดนมนต์กฤษณะกาลีจนถึงแก่ชีวิต โดยเข้าไปอยู่ในร่างของการะเกด ซึ่งความสนุกของเรื่องได้เล่าถึงความเป็นมาของแผ่นดินสยาม แทรกไปด้วยความรู้ทางประวัติศาสตร์ นอกจากนั้นยังมีช่วงที่ทำมะม่วงน้ำปลาหวาน กุ้งเผา และหมูโสร่ง กลายเป็นสินค้าขายดีชั่วข้ามคืน โดยเรื่องนี้ดังไกลถึงประเทศจีน และทำให้คอละครจีนพูดถึงเป็นวงกว้างอีกด้วย 

2. สงครามนางฟ้า

เรื่องราวของแอร์โฮสเตสสาวที่ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มากมายในชีวิต ชื่อว่า ริน ซึ่งต้องเจอกับบททดสอบในชีวิตหลายด่านด้วยกัน และกว่าจะผ่านมาได้แต่ละด่านทำให้เธอแทบขาดใจ โดยเรื่องนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งละครจากค่ายเอ็กซ์แซ็ก ผ่านฝีมือนักแสดงหลักอย่าง บี-น้ำทิพย์ , ก้อง-สหรัถ และ ป้อง-ณวัฒน์ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เขาได้โกอินเตอร์ไปไกลถึงประเทศจีน 

3. สุภาพบุรุษจุฑาเทพ

เรื่องราวของ 5 หนุ่มจากวังจุฑาเทพ ซึ่งเป็นที่หมายปองของสาว ๆ ทั่วทั้งพระนคร รวมถึงสาว ๆ ที่ได้รับชมละครเรื่องนี้ด้วย ซึ่งคุณชายแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันมาก ไม่ว่าจะเป็นนิสัยใจคอ ความชอบส่วนตัว โดยจะนำเสนอจะแบ่งแยกออกเป็น 5 เรื่องของคุณชายทั้ง 5 ดังนี้ คุณชายธราธร คุณชายปวรรุจ คุณชายพุฒิภัทร คุณชายรัชชานนท์ คุณชายรณพีร์ โดยละครเรื่องนี้เรียกคะแนนเรตติ้งจากแฟนคลับทั้งชาวไทย และชาวจีนได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

4. พิษสวาท

ละครเรื่องนี้เป็นการนำเสนอเกี่ยวกับวิญญาณหญิงสาวคนหนึ่ง ที่ต้องทำหน้าที่เฝ้าสมบัติชาติตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยไม่มีความเต็มใจ พร้อมกับความแค้นและความสับสนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต เมื่อเธอเชื่อว่าโดนสามีล่อลวงให้มาทำหน้าที่ดังกล่าว เพื่อต้องการหนีไปกับผู้หญิงอื่น แถมยังสอดแทรกถึงหน้าที่ของทุกคนบนแผ่นดินในสมัยนั้น ละครเรื่องนี้เรียกได้ว่า นุ่น-วรนุช และ ป้อง-ณวัฒน์ สามารถฝากฝีมือการแสดงได้ดีทีเดียว ทำให้เรื่องนี้ได้โกอินเตอร์ถึงประเทศจีน

5. นาคี

“คำแก้ว เป็นงู” หลายคนคงจำกันได้ดี เพราะละครเรื่องนี้สามารถเรียกกระแสเรตติ้งได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้การเดินเรื่องจะไม่ค่อยหวือหวามากนักก็ตาม แต่ทุกตอนทำให้แฟน ๆ นั่งลุ้นกันต่อเนื่องว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป โดยเรื่องนี้นำเสนอทั้งภาษาถิ่น และวัฒนธรรมถึงความเชื่อเรื่องพญานาคได้ดี จนทำให้ทางด้านสาธารณรัฐประชาชนลาว ถึงขั้นติดต่อขอออนแอร์ในประเทศทันที ส่งผลให้ เคน-ภูภูมิ, แต้ว-ณฐพร และนักแสดงอีกหลายท่าน ได้รับความนิยมมากขึ้นทันที 

ทั้งนี้ละครทุกเรื่องยังคงเป็นละครฮิตและเป็นเรื่องโปรดของใครหลายคน และทั้งหมดจะออกมาเป็นละครดังไม่ได้เลย หากไม่มีทีมผู้จัดและบทที่ดีพอ โดยละครไทยอีกหลายเรื่องกำลังได้รับความสนใจจากต่างชาติสูงขึ้นเรื่อย ๆ และในอนาคตเชื่อว่าละครไทยจะไปได้ไกลมากกว่านี้แน่นอน

หากจะบอกว่า เกม คืออีกปัจจัย ที่ทำให้การจินตนาการถึงโลกในอนาคตของเราเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นก็คงไม่ผิด ถึงแม้เราจะไม่รู้ว่า โลกแห่งอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ในเกมเราคงจินตนาการออกมาได้แตกต่างกัน โดยเฉพาะเกมออนไลน์ ซึ่งให้ภาพและเสียงสมจริง จนทำให้รู้สึกได้ถึงความสนุก และจินตนาการไม่รู้จบ

Games New World กับโลกในอุดมคติแบบไหนคือโลกในอนาคต

เกมสร้างจากจินตนาการของมนุษย์ หากมนุษย์เนรมิตเกมในอุดมคติขึ้นมาได้ โลกในอนาคตแบบ เกม New World ก็คงเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน แต่จะเป็นแบบไหน ก็ขึ้นอยู่กับผู้ชนะที่ได้อำนาจไปนั่นเองว่าจะใช้เทคโนโลยีในทางไหน

Game New World ในปัจจุบันมีแบบไหนบ้าง

ปัจจุบัน เกม มีหลายรูปแบบ และส่วนใหญ่จัดอยู่ในเกมฮิต และ เกมมันส์ ๆ ติดชาร์ทอย่างต่อเนื่อง และสำหรับเกมธรรมดาทั่วไป ที่ไม่ใช่เกมออนไลน์ เริ่มพัฒนามากขึ้นเช่นเดียวกัน ทำให้ชาวเกมเมอร์มีทางเลือกมากยิ่งขึ้น 

ดังนั้นมาดูกันว่า 5 อันดับ เกม New World ที่ไม่ควรพลาด มีอะไรบ้าง

1. Death stranding

เกมที่จะพาคุณไปในยุคที่โลกใกล้ถึงจุดสิ้นสุด มนุษย์ที่เหลือบนโลกต้องอาศัยอยู่ใต้ดิน เพื่อความอยู่รอดและลดความเสี่ยงที่จะโดนฝน Time Full ของเหลวที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา เมื่อสัมผัสร่างกายจะกลายเป็นแก่ชรา อาชีพคนส่งของจึงเป็นอาชีพที่มนุษย์บนโลกที่เหลืออยู่ต้องการมากที่สุด ทั้งส่งปัจจัย 4 หรือแม้กระทั่งการนำศพของมนุษย์ไปเผา เพราะเมื่อมนุษย์เสียชีวิตร่างกายจะเกิดการเน่าเปื่อยและจะส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ Void out หรือการระเบิดอย่างรุนแรง วิธีเดียวที่จะไม่ให้เกิด Void out คือการรีบเผาเพื่อทำให้ปฏิกิริยา Necrosis เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ ในเตาเผาที่มนุษย์สร้างขึ้นและอยู่ไกลจากเขตเมือง เนื่องจากการเผาจะเป็นการเร่งให้เกิดฝน Time Full และเรียกเหล่า BT สิ่งที่ทำให้เกิด Death stranding นั่นเอง ผู้เล่นจะรับบทเป็น แชม มนุษย์เพียงไม่กี่คนที่กำเนิดหลังเหตุการณ์ Death stranding เรียกว่า Doom sufferer ผู้ที่ต่อให้เสียชีวิตก็จะสามารถกลับมามีชีวิตในจุดที่เคยเสียชีวิตล่าสุดได้ แต่ถึงจะอย่างนั้นความท้าทายของเกมคือ การต้องส่งของในสภาพที่ไม่มีถนนหนทางปกติ ต้องพบกับกลุ่มโจร เหล่า BT ระหว่างทาง และตัวร้าย Last boss อย่าง ฮิกส์ และปริศนาต่าง ๆ ที่เราต้องสืบเกี่ยวกับแซม

2. Horizon Zero Dawn

เกมนี้จะนำผู้เล่นไปในโลกที่มนุษย์ปฏิเสธการใช้เทคโนโลยี และต้องต่อสู้กับเหล่าร้ายที่ควบคุมหุ่นยนต์ที่มนุษย์ยุคก่อนเป็นผู้สร้างขึ้น ผ่านตัวละครที่ชื่อว่า เอลอย เด็กสาวผู้ตามหาแม่ผู้ให้กำเนิด และถูกมองว่าเป็นคนนอกเผ่า แต่สุดท้ายเธอก็ได้รับเลือกให้เป็นผู้พิทักษ์เพื่อปกป้องเผ่า โดยมีปิ๊กที่เก็บได้จากถ้ำที่สามารถตามหาที่มาของตัวเองจนได้รู้ว่า เธอเกิดจากโคลนของหัวหน้าทีม อลิซาเบท โซเบค ผู้คิดค้นเทคโนโลยีที่ทำให้มนุษย์โลกเกือบสูญพันธุ์

3. Cyberpunk 2077 

เกมนี้จะนำผู้เล่นไปในยุคที่เทคโนโลยีล้ำขั้นสุด ออกแนวไซไฟ เป็นเกมที่ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นได้ว่าจะเป็น Life path แบบไหน จุดเริ่มต้นอาจแตกต่างกันแต่จุดจบไม่ต่างกัน เราจะเล่นผ่านตัวเอกที่ชื่อวี คนที่ดวงซวยขั้นสุด ทำเควสขโมยไบโอชิปจนเกิดเป็นเรื่อง วีจึงต้องสืบเรื่องชิปและได้รู้จักกับหลายๆ ตัวละคร ตอนจบมี 3 แบบให้ผู้เล่นเลือก

4. Final Fantasy VII: Remake

เกมที่พาผู้เล่นไปอยู่ในยุคที่ขาดแคลนธรรมชาติ แต่เทคโนโลยีพัฒนาถึงขั้นสุด เนื้อเรื่องจะเล่าถึง ลาวด์ สไตรฟ์ ทหารรับจ้างแสนเย็นชาผู้สนใจแต่เงิน และรับงานจากกลุ่ม อวาลานช์ เพื่อต่อสู้กับบริษัทนายทุนยักษ์ใหญ่ ชินระ คอมปานี ที่แสนจะร่ำรวยจากการค้นพบ พลังงานมาโค ที่ได้มาจากการสกัดสสารสีเขียวจากแกนโลก เพื่อทำให้มนุษย์มีมีพลังเวทมนตร์ เรื่องราววุ่นวายในเขตต่างๆ จึงเกิดขึ้น

5. FAR: Lone Sails

เกมที่จะแสดงให้เราเห็นถึงผลกระทบของโลกร้อน เป็นเกมที่ไม่มีการพูดหรือทำเควสหรือแนะนำอะไรทั้งสิ้น มีแต่เสียงซาวด์ให้ผู้เล่นจินตนาการและสังเกตหลายๆ อย่างเอาเองว่าควรทำอย่างไร ผ่านตัวเอกในชุดเสื้อคลุมสีแดง ล่องเรือและต่อเรือไปเรื่อยๆ ผ่านโลกทะเลทรายที่น้ำทะเลแห้งเหือดถึงจุดหมาย

แม้เกมจะดูเหมือนสิ่งไร้สาระในสายตาของคนบางกลุ่ม แต่สามารถสร้างจินตนาการและแรงบันดาลใจ อีกทั้งยังสร้างอาชีพให้เหล่า เกมเมอร์ มีรายได้เข้ากระเป๋าอีกด้วย

คำว่า การ์ตูน หมายถึงการเล่าเรื่องต่าง ๆ ผ่านภาพ และตัวอักษรไม่มากนัก ซึ่งอาจจะมาในรูปแบบของหนังสือเล่มกะทัดรัด และพกพาสะดวกสุด ๆ ซึ่งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีหลายเรื่องยังคงเป็นที่นิยมของนักอ่าน และสาวกหนังสือการ์ตูน จนถึงขั้นถูกจัดให้เป็นเรื่องในตำนานมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนปัจจุบันมีการยกระดับให้เข้าถึงทุกกลุ่มได้ง่ายมากขึ้น โดยการทำเป็นหนังการ์ตูนผ่านหน้าจอ

การ์ตูนทั้ง 5 เรื่องที่หลายคนรู้จักกันดี

ถ้าพูดถึงการ์ตูนเรื่องดัง เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงเรื่องโปรดได้หลายเรื่องแน่นอน แต่ถ้าพูดถึงเรื่องดัง ๆ ที่ไม่ว่าจะหยิบขึ้นมาสร้างเป็นการ์ตูนอนิเมชัน หรือหนังในโรงยังคงได้รับความสนใจ และมีกระแสตอบรับที่ดีจากแฟน ๆ เหมือนเดิมมีไม่กี่เรื่องเท่านั้น แต่เชื่อว่าแต่ละเรื่องเป็นเรื่องในใจของคนที่ชื่นชอบการ์ตูนแน่นอน

สำหรับ 5 เรื่องที่ทุกคนต้องยกให้เป็นสุดยอดของคำว่าตำนานที่แท้จริง

ถึงแม้การ์ตูนหลายเรื่องออกสู่ท้องตลาดมานาน และถูกพัฒนาจากหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นมาเป็นอนิเมะ หลายครั้ง หลายภาค และหลายตอน แต่ทุกครั้งที่ออกฉายยังคงมีกระแสตอบรับจากแฟน ๆ เหนียวแน่น และยังเป็นอนิเมะที่ได้รับความนิยมจากแฟนเหมือนเดิม มีหลายเรื่อง โดยเฉพาะ 5 เรื่องที่จะพูดถึงดังต่อไปนี้

โดยมาดูกันต่อว่า Cartoon ทั้ง 5 เรื่อง ที่ได้ชื่อว่าเป็นตำนานมีเรื่องอะไรกันบ้าง

1. ดราก้อนบอล (Dragon Ball)

เป็นการ์ตูนที่มีหลายภาค และถือว่าเป็นเรื่องที่ได้รับกระแสตอบรับดีเสมอ ไม่ว่าจะออกมารูปแบบไหนก็ตาม โดยเนื้อเรื่องคือ ซุน โกคู ต้องตามหาลูกบอลทั้ง 7 ลูกให้ได้ เพื่อขอพรจากมังกร 1 ข้อ โดยตลอดทางเขาต้องพบกับความยากลำบากมากพอสมควร ในขณะที่ได้พบเจอเพื่อนใหม่ตลอดทางเช่นเดียวกัน โดยเรื่องนี้มีทั้งในรูปแบบของ มังงะ อนิเมะ และภาพยนตร์ แต่การจะโหมอ่านหรือดูเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องในวันเดียวเป็นไปได้ยากมาก เพราะดราก้อนบอลมีหลายภาคด้วยกัน และถ้าจะรวมทุกตอนจะอยู่ที่ 735 ตอน

2. นักสืบจิ๋วโคนัน (Conan)

เรื่องนี้ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบของมังงะ อนิเมะ หรือภาพยนตร์ ยังคงได้รับความสนใจจากแฟน ๆ อย่างล้นหลาม โดยเรื่องย่อคือ คุโด้ ชินอิจิ นักเรียนม.ปลายแห่งหนึ่ง โดนยาพิษจากคนร้ายนิรนาม ซึ่งต้องการฆ่าเขาปิดปาก แต่ ชินอิจิ กลับไม่ตาย แต่กลายร่างเป็นเด็กวัยอนุบาล จนกระทั่งเขาต้องใช้ชีวิตในร่างเด็กคนนั้นต่อไปจนกว่าจะเจอยาแก้พิษ ภายใต้ชื่อว่า “เอโดะงาวะ โคนัน” โดยมี ดร.อากาสะ ฮิโรชิ คอยช่วยเหลือเขาทำภารกิจตลอดเวลา แต่สุดท้ายเจ้าหนูรายนี้ต้องเข้ามาเกี่ยวพันกับคดีต่าง ๆ หลังจากย้ายมาอยู่ภายใต้การดูแลของ โมริ รัน ลูกสาวของ โมริ โคโกโร่ นักสืบเอกชน โดย โคนัน เป็นคนอยู่เบื้องหลังของความสำเร็จในการไขคดีของ โคโกโร่

3. เทพมรณะ (Bleach)

เรื่องนี้มีทั้งมังงะ อนิเมะ และหนัง ซึ่งไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบไหนยังคงได้รับความสนใจเหมือนเดิมอยู่ดี โดยเนื้อเรื่องของการ์ตูนพูดถึง คุโรซากิ อิจิโกะ นักเรียนชาย ม.ปลาย คนหนึ่งที่อยู่ ๆ กลายเป็นยมทูตแทน คุจิกิ ลูเคีย ยมทูตสาว ซึ่งเพิ่งพลาดท่าเสียทีให้ฮอลโลว์ตัวหนึ่ง จนทำให้เธอไม่มีแรงกำจัด จึงตัดสินใจให้อิจิโกะเป็นร่างเทียม ระหว่างที่เธอกำลังรักษาอาการบาดเจ็บบนโลกมนุษย์

4. นารูโตะ (Naruto)

หมู่บ้านนินจาแห่งหนึ่งโดนจิ้งจอกเก้าหางเล่นงานอย่างหนัก ทำใหห้ โฮคาเงะ รุ่นที่ 4 ต้องยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อสยบรวมถึงสะกดวิญญาณของจิ้งจอกเก้าหาง โดยการผนึกไว้กับ อุซึมากิ นารูโตะ ซึ่งเด็กคนนี้เติบโตมาพร้อมกับสายตาเกลียดชังของชาวบ้านที่รู้ว่าในตัวของเขามีวิญญาณจิ้งจอกเก้าหางอยู่ ในขณะที่ทางด้าน นารูโตะ อยากได้การยอมรับจากทุกคน เพราะเขาอยากเป็น โฮคาเงะ ทำให้เขาพยายามเรียนวิชานินจาต่อเนื่อง โดยเรื่องนี้อาจจะนำเสนอแปลกไปบ้าง แต่รับรองว่าในภาคของมังงะ รวมถึงเป็นหนัง และการ์ตูน แต่ละภาคนั้นสนุกไม่แพ้กันเลยจริง ๆ

5. วันพีช (One Piece)

เป็นเรื่องเล่าของ คี ลูซี เป็นแรงบันดาลใจอยากเป็นโจรสลัด เหมือนไอดอลอย่าง “แชงคูส” ทำให้เขาเริ่มออกเดินทางหาสมบัติที่ชื่อ วันพีช ทันที ซึ่งการเดินทางของเขามีผู้ร่วมเดินทางหลายรายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น โรโรโนอา โซโร , นามิ ต้นหน และโจร ฯลฯ โดยเรื่องนี้สนุกมาก และยังคงเป็นเรื่องที่หลายคนยังอ่านและดูมาโดยตลอด

รถสปอร์ต คือรถในฝันของใครหลายคน เพราะด้วยดีไซน์สุดหรู เฉี่ยว คม และทำให้ผู้ขับขี่เท่ขึ้นในพริบตา ซึ่งปัจจุบันรถซูเปอร์คาร์มีหลากหลายยี่ห้อให้เลือก โดยแต่ละค่ายรถจะมีสมรรถนะไม่ค่อยห่างไกลกันมากนัก เรียกได้ว่าตามหลังมาติด ๆ แต่การเลือกซื้อขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนว่าเป็นสาวกของค่ายไหน ส่วนค่ายดัง ๆ ในปัจจุบันและคุ้นหูของคนทั่วไปคือ แลมโบกินี่, เฟอร์รารี่, แมคลาเรน หรือ พอร์ช เป็นต้น

ซูเปอร์คาร์ มีความแตกต่างจากรถธรรมดาตรงไหน ทำไมมีความเร็วมากกว่ารถธรรมดา

รถสปอร์ต ซึ่งได้ชื่อว่า รถหรู มีความแตกต่างจากรถธรรมดาและถือว่าเป็นจุดเด่นคือ จะมีแรงม้าไม่ต่ำกว่า 600 ทำให้มีอัตราเร่งตั้งแต่ช่วง 0 – 4 อยู่ที่ไม่เกิน 4 วินาที อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบาและควบคุมรถได้ง่ายมากกว่ารถทั่วไป ทำให้การขับขี่คล่องตัวมากกว่า อีกทั้งเต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ ซึ่งช่วยให้การขับขี่ทางไกลสนุก 

ค่ายไหนติด 5 อันดับ SuperCar ที่ได้ชื่อว่าเร็วที่สุดในโลก 

สำหรับ 5 อันดับ รถซูเปอร์คาร์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นรถที่มีความเร็วที่สุดในโลก ในปี 2021 ยังคงมาจากค่ายรถชื่อดัง ที่หลายคนคุ้นหู สำหรับ 5 รถสปอร์ตที่มีความเร็วสูงที่สุดในโลกมีดังนี้

1. SSC Tuatara

Tuatara จากค่าย Shelby SuperCar ค่ายรถสปอร์ตยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน ได้ชื่อว่าเป็นจรวดทางเรียบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพิ่งทำสถิติด้วยความเร็วสูงถึง 508 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์สุดแรงที่ V8 กระบอกสูบที่่ 5.9 ลิตร พร้อมเทอร์โบคู่ ซึ่งสามารถควบแรงได้มหาศาล เนื่องจากมีมากถึง 1,750 แรงม้า และจากผลการทดสอบที่ผ่านมาเจ้าตัว SSC Tuatara สามารถทำลายสถิติเดิมของ Koenigsegg Agera RS ซึ่งเคยเป็นเจ้าของสถิติรถที่ทำความเร็วได้มากที่สุดในโลกมาอันดับลงแทบไม่เห็นฝุ่น โดยเคยทำไว้ที่ความเร็วที่ 447.19 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อย่างไรก็ตามถึงแม้เจ้าตัว SSC Tuatara ขึ้นรับตำแหน่งรถสปอร์ตที่มีความเร็วสูงที่สุดในโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีเสียงทักท้วงว่าอาจจะทำให้ผลการทดสอบเกิดความผิดพลาด ทำให้ล่าสุดทางด้าน Jerod Shelby ผู้บริหารของ SSC ออกมาประกาศว่าจะทดสอบความเร็วอีกครั้ง เพื่อพิสูจน์ว่าเจ้าตัวนี้ดีมากแค่ไหน ซึ่งสามารถจับจองเป็นเจ้าได้ในราคาที่ 43.8 ล้านบาท และมีเพียงแค่ 100 คันบนโลกเท่านั้น 

2. Bugatti Chiron Super Sport 300+

ซูเปอร์คาร์เครื่องยนต์เบนซิน 16 สูบ ซึ่งมาพร้อมกับเทอร์โบ 4 ลูก ส่วนความแรงไม่ต้องพูดถึง เพราะได้มาถึง 1,600 แรงม้า จึงทำให้สามารถปราดเปรียวไปบนท้องถนนที่ความเร็วสูงสุดครั้งแรก 482.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทันที และล่าสุดสามารถมีสถิติทำความเร็วได้สูงสุดที่ 490.48 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยฝีมือของ Andy Wallace นักขับชื่อดังชาวอังกฤษ โดยรุ่นนี้ผลิตออกมาแค่ 30 คันทั่วโลกเท่านั้น ราคา 117 ล้านบาท 

3. Hennessey Venom F5

ซูเปอร์คาร์ ยังคงติดท็อป 5 รถที่เร็วและแรงที่สุดในโลกเหมือนเดิม ด้วยสถิติที่เคยทำไว้ 484.41 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ส่วนองค์ประกอบของเครื่องยนต์อยู่ที่ เครื่องยนต์ขนาด 7.4 ลิตร ซึ่งมาพร้อมกับเทอร์โบชาร์จคู่ V8 พร้อมกับแรงควบที่ 1,600 แรงม้า ทั้งนี้จุดเด่นของ Venom F5 คือสามารถเร่งจาก 0 – 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลา 30 วินาทีเท่านั้น ส่วนเรื่องราคาอยู่ที่ 50 ล้านบาท โดยมีแค่ 24 คันทั่วโลก

4. Koenigsegg Agera RS 

ซูเปอร์คาร์จากแดนไวกิ้งซึ่งครั้งหนึ่งเคยขึ้นสู่แท่นมาวินความเร็วสูงสุด หลังจากทำได้มากถึง 447 กิโลเมตต่อชั่วโมง โดยมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด V8 ความจุ 5 ลิตร โดยให้กำลังมากถึง 1,600 แรงม้า แถมยังออกแบบมาเพื่อรองรับ E85 อีกด้วย และความเร็วของเจ้าตัวนี้ถูกบันทึกไว้ที่ กินเนสส์บุ๊ค ซึ่งเป็นหนังสือที่จะบันทึกสถิติต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งเจ้าตัวมีราคาอยู่ที่ 171 ล้านบาท ยังไม่รวมภาษี มีทั้งหมด 25 คันทั่วโลก

5. Hennessey Venom GT 

ซูเปอร์คาร์น่าสนใจอีกตัวจากค่าย Hennessey ถือว่ายังเกาะกลุ่มท็อป 5 รถที่แรงและมีความเร็วที่สุดในโลกมาอย่างเหนียวแน่น ด้วยเครื่องยนต์ 7 ลิตร พร้อมกับเทอร์โบคู่ V8 แถมทางด้าน Hennessey จัดมาให้ 1,244 แรงม้า ทำให้รถคันนี้น่าสนใจมากทีเดียว ส่วนสถิติความเร็วที่เคยทำได้อยู่ที่ 435 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่การเป็นเจ้าของรถคันนี้ไม่ง่าย เพราะทาง Hennessey ผลิตออกมาแค่ 16 คันทั่วโลก ส่วนราคาขายปัจจุบันอยู่ที่ 42 ล้านบาท 

โดยรถทั้ง 5 รุ่น มีดีไซน์เท่ และน่าสนใจมากที่สุด แถมสมรรถนะที่ติดมากับตัว เรียกได้ว่าทำให้เหล่าบรรดาคนรักซูเปอร์คาร์อยากจับจองในทันที ส่วนในอนาคตต้องรอลุ้นกันต่อไปว่า จะมีค่ายไหนสามารถทำสถิติความเร็วของทั้ง 5 คันลงได้หรือไม่

ความหมายของ เกมเมอร์ คือ คนเล่นเกมอาชีพ ซึ่งปัจจุบันมีหลายคนกำลังเข้าสู่เส้นทางนี้ และหลายคนประสบความสำเร็จ จนกลายเป็นนักเล่นเกมระดับโลก และทำรายได้เข้ากระเป๋าตลอดทั้งปีมหาศาล ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีของการเล่นเกม ที่ก่อนหน้านี้หลายคนมองว่าไร้ประโยชน์มาโดยตลอด

อาชีพที่กำลังมาแรงอีกอาชีพหนึ่งเช่นเดียวกัน

สำหรับอาชีพ เกมเมอร์ ถือว่าเป็นอาชีพมาแรงต่อเนื่อง และมีแนวโน้มว่าในอนาคตจะเป็นอาชีพที่ส่งผลดีต่อบริษัทเกมอย่างมาก ด้วยเหตุผลว่าปัจจุบันมีบริษัทเกมผลิตเกมใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อาชีพเล่นเกมกลายเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มาแรง ส่วนในอนาคตมีโอกาสขยายตลาดได้กว้างมากขึ้นอีกด้วย 

Gamer หลายคนได้รับการยกย่องว่ามาแรงที่สุดในโลก

ทั้งนี้ล่าสุดจากการทำสถิติจัดอันดับคนดังทุกสาขาอาชีพ ที่ทำเงินเข้ากระเป๋าได้สูงสุดตลอดเวลา 1 ปี อย่าง FORB ได้จัดโพลนักเล่นเกม ที่มีรายได้สูงที่สุดตลอดทั้งปี 2020 ติดท็อป 5 ทำเงินสูงสุด ซึ่งแต่ละคนมีรายได้สูงหลายล้านเหรียญ ส่งผลให้มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าในอนาคต อาชีพเกมเมอร์หรือนักเล่นเกมจะเป็นอาชีพฮอตที่มาแรงมาก

สำหรับ 5 อันดับ Gamer ที่มีรายได้สูงสุดตลอดทั้งปีที่ผ่านมา คือ

1. Tyler Blevins

หนุ่มคนนี้ได้ชื่อว่ามีพรสวรรค์ทางด้านเล่นเกมสุด ๆ เพราะเขาใช้เวลาพาตัวเองมาสู่อาชีพ เกมเมอร์ ในเวลาไม่นาน โดยอาชีพนี้ได้เปลี่ยนชีวิตเขาจากพนักงานร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดแห่งหนึ่ง ให้กลายเป็นคนดังที่หลายคนอยากพูดคุยด้วยมากที่สุดในตอนนี้ โดยก่อนหน้านี้เขาต้องคุยกับคนในครอบครัว เพื่ออธิบายให้เข้าใจว่าอาชีพเล่นเกมที่หลายคนมองว่าไร้สาระ สามารถทำเงินและเป็นอาชีพได้แน่นอน ซึ่งสุดท้ายทุกคนในครอบครัวเคารพการตัดสินใจของเขา จนในปัจจุบันกลายเป็นคนมีชื่อเสียงในวงการ Gamer ดังกระฉ่อนจนได้รับฉายาว่า “Ninja” ส่วนรายได้จากการจัดอันดับของ Forbs เมื่อปี 2020 อยู่ที่ 17 ล้านเหรียญ

2. Felix Kjellberg

ใครจะเชื่อว่าเด็กหนุ่มชาวสวีเดนคนหนึ่งที่ติดเกมอย่างหนัก จะกลายเป็นคนดังในฐานะ Youtuber และ Gamer ในเวลาเดียวกัน จนปัจจุบันเขาขึ้นแท่นเป็นเกมเมอร์ที่มีชื่อเสียงติดท็อป 5 ของวงการเกม ซึ่งประวัติของเขาไม่ธรรมดา เพราะเจ้าตัวเลือกลาออกจากมหาวิทยาลัย เพื่อทุ่มเทให้กับช่องยูทูปของตัวเองเต็มตัว ซึ่งปัจจุบันช่องของเขามีผู้ติดตามในช่องมากถึง 34.8 ล้านคน ซึ่งทำให้เขาเป็นเบอร์หนึ่งของแชมป์ยูทูปที่มีคนติดตามสูงที่สุดในขณะนี้ ส่วนฉายาที่หลายคนรู้จักเขาดีคือ “PewDiePie” ปัจจุบันเขามีรายได้ 15 ล้านเหรียญ ตลอดทั้งปี 2020 จากการจัดอันดับของ Forbs

3. Preston Arsement

เกมเมอร์ดาวยูทูปชาวอเมริการายนี้ถือว่ามาแรงสุด ๆ เพราะเขาได้รับความสนใจจากเหล่าบรรดาคนเล่นเกมอย่างต่อเนื่อง และปัจจุบันถือว่าเขาประสบความสำเร็จในการทำหน้าที่ของเขาในช่องยูทูปอย่างมาก ทั้งนี้ปัจจุบันฉายาที่ใช้ในวงการคือ “Preston” โดยเขามีรายได้จากการจัดอันดับของ Forbs ทั้งหมด 14 ล้านเหรียญ เมื่อปี 2020

4. Mark Fischbach

ยูทูปเบอร์และเกมเมอร์ผู้โด่งดัง ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยมีความฝันจะเป็นนักแสดง แต่สุดท้ายเขามาโด่งดังกับการทำช่องยูทูป โดยเขาเริ่มเกมครั้งแรกในปี 2555 โดยปัจจุบันเขายังคงได้ชื่อว่าเป็นคนดังในช่องยูทูปจนติดท็อป 5 ของคนดังสายเกมที่มียอดทำเงินเข้ากระเป๋าสูงถึง 14 ล้านเหรียญ ส่วนฉายาของเขาในวงการ Gamer คือ “Markiplier”

5. Michael Grzesiek

หรือเรียกตามฉายาในวงการว่า “Shroud” โดยเมื่อปี 2020 เขาทำรายได้จากอาชีพ Gamer ไปถึง 12.5 ล้านเหรียญ จากการจัดอันดับของ Forbs โดยทางด้านเจ้าตัวเปิดเผยว่า เขารักและชื่นชอบเกมมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นเขาสามารถนั่งตรงหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้นานมาก โดยจุดเริ่มต้นของการสตรีมของเขาเกิดขึ้นในปี 2011 และในปัจจุบันเขามีผู้ชมที่พร้อมจะนั่งชมเขาสตรีมเกมสูงถึง 97.39 ล้านคนต่อชั่วโมง

อาชีพเกมเมอร์ยังคงเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ดึงดูดนักเล่นเกมหลายคนได้ดี เพราะนอกจากจะได้สนุกไปกับการเล่นเกมที่ชอบแล้วยังสามารถหารายได้จากการเล่นไปในตัวอีกด้วย แต่มีหลายคนที่ยังต้องใช้ความพยายามมากพอสมควร เพราะพัฒนาสู่ระดับชั้นนำ และทำรายได้เข้ากระเป๋าอย่างต่อเนื่อง และจำนวนที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ

ปัจจุบันหลายประเทศเริ่มมีการแข่งขันก่อสร้างตึกสูง ๆ เพื่อทำสถิติ ตึกที่สูงที่สุดในโลก อย่างต่อเนื่อง โดยแต่ละตึกจะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง รวมถึงการตั้งชื่อที่มีความหมายในตัว และเพื่อให้เป็นคุ้นหูได้ง่าย ซึ่งแต่ละแห่งต่างมีความสวยงามแตกต่างออกไป นอกจากนั้นทุกตึกเมื่อสร้างเสร็จแล้วสามารถใช้งานจริง ๆ และบางแห่งเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเยี่ยมชมอีกด้วย 

ข้อดีของการก่อสร้าง ตึกสูงที่สุดในโลก จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่อเนื่อง

การตัดสินใจก่อสร้างตึกจนได้ชื่อว่าเป็น ตึกที่สูงที่สุดในโลก จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน และนักท่องเที่ยวชม ตึกระฟ้า มากเพิ่มขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว 

ปัจจุบันมี ตึกที่สูงที่สุดในโลก หลายแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งถือว่ามีชื่อเสียงติดอันดับโลก 

หลายปีมานี้รายชื่อของตึกของประเทศต่าง ๆ ถูกบันทึกไว้ว่าเป็น ตึกที่สูงที่สุดในโลก เนื่องจากเป็น ตึกสูงเสียดฟ้า โดยการตัดสินใจก่อสร้างในแต่ละครั้ง จะได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก

โดยมาดูกันว่า 5 อันดับ ตึกที่สูงที่สุดในโลก มีที่ไหนกันบ้าง 

1. เบิร์จ คาลิฟา หรือ เบิร์จ ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ตึกสูงในมหานครดูไบ ประเทศ UAE ถือว่าเป็นตึกที่ยังได้ชื่อว่าสูงที่สุดในโลก ด้วยสถิติความสูงที่ 828 เมตร หรือ 2,717 ฟุต มีทั้งหมด 163 ชั้น ข้างในมีโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร อีกทั้งจุดชมวิว ส่วนไฮไลท์ของที่นี่คือ ความเร็วลิฟต์ ซึ่งได้ชื่อว่าเร็วมากที่สุดในโลก เพราะใช้เวลาเดินทางไปยังชั้นชมวิวที่ 124 ภายในเวลาแค่ 1 นาที เท่านั้น 

2. เซียงไฮ้ ทาวเวอร์ ประเทศจีน

โดยตึกแห่งนี้ตั้งอยู่ในมหานครเซี่ยงไฮ้ มหานคร ที่ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามอีกแห่งของประเทศจีน โดยความสูงของตึกจะอยู่ที่ 632 เมตร หรือราว 2,073 ฟุต มีทั้งหมด 128 ชั้น โดยข้างในจะประกอบไปด้วย สำนักงาน โรงแรม และพื้นที่ค้าปลีก อีกทั้งยังมีจุดชมวิวสวย ๆ บนตึกอีกด้วย 

3. อับราจ อัล เบท ทาวเวอร์ส คอมเพล็กซ์ ประเทศซาอุดิอารเบีย

ตึกนี้ยังคงรั้งอันดับ 3 ของโลก ด้วยความสูงที่ 601 เมตร หรือ 1,971 ฟุต มีจำนวนชั้นทั้งหมด 120 ชั้น ซึ่งจะประกอบไปด้วยศูนย์การค้าต่าง ๆ โรงแรม ศูนย์การประชุมต่าง ๆ อีกทั้งยังมีห้องละหมาดขนาดใหญ่รองรับได้ถึง 3,800 คน ส่วนจุดเด่นของตึกนี้คอจะมีนาฬิกาขนาดใหญ่ เด่นตระหง่านตัดกับสีของน้ำตาลทองและสีฟ้าเทอร์ควอยส์อย่างลงตัว 

4. ผิง อัน อินเตอร์เนชั่นแนล ไฟแนนซ์ เซ็นเตอร์ ประเทศจีน

สำหรับตึกนี้มีที่ตั้งอยู่ในเมืองเซินเจิ้น เมืองที่หลายคนมีมุมมองค่อนข้างติดลบพอสมควร แต่ในความเป็นจริงแล้วเมืองนี้เจริญมากเลยทีเดียว ซึ่งปัจจุบันได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่าสำคัญของประเทศจีนอีกแห่งหนึ่ง โดยภายในตึกแห่งนี้จะประกอบไปด้วยสำนักงานต่าง ๆ รวมถึงโรงแรม โดยมีลิฟต์ภายในอาคารมากถึง 80 ตัวด้วยกัน ส่วนความสูงจะอยู่ที่ 599 เมตร หรือประมาณ 1,965 ฟุต มีจำนวนชั้นทั้งหมด 115 ชั้น

5. ลอตเต้ เวิลด์ ทาวเวอร์ ประเทศเกาหลีใต้

ตึกนี้จะเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี เพราะตั้งอยู่ในกรุงโซล เมืองหลวงของสาธารณรัฐเกาหลี หรือประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งการดีไซน์ตัวตึกค่อนข้างแปลกพอสมควร เพราะออกแบบมาคล้ายแคปซูลเรียวยาว ส่วนความสูงทำให้ติดอันดับโลกเป็นที่ 5 อยู่ที่ 554.5 หรือราว 1,819 ฟุต ซึ่งมีจำนวนชั้นทั้งหมด 123 ชั้น โดยข้างในจะมีร้านขายของปลอดภาษี และเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวรอบ ๆ กรุงโซล ยิ่งเป็นกลางคืนจะเห็นได้ถึงความสวยงามแสง สี แดง ของเมืองหลวงเกาหลีใต้สุด ๆ 

โดยทั้ง 5 อันดับ ตึกที่สูงที่สุดในโลก เวลานี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์ค ที่แสดงให้เห็นถึงความเจริญทางเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ ได้อย่างชัดเจน ซึ่งปัจจุบันหลายประเทศพยายามออกแบบ และสร้างตึกที่ได้ชื่อว่าสร้างที่สุดในโลก โดยล่าสุดมีข่าวคราวออกมาว่าทางด้านประเทศซาอุดิอาระเบีย กำลังเตรียมความพร้อมสร้างความยิ่งใหญ่ และทวงตำแหน่งที่หนึ่งของตึกที่สูงที่สุดอีกครั้ง ด้วยการสร้าง คิงดอม ทาวเวอร์ เจดดะห์ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีความสูงถึง 1000 เมตร กันเลยทีเดียว 

คำว่า Youtuber มีความหมายตรง ๆ ว่าผู้อัปโหลดวิดีโอ ผู้มีชื่อเสียงในยูทูป ผู้สร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจจนมีผู้ติดตามรอรับชมอย่างมากมาย และในปัจจุบันกำลังเป็นอาชีพมาแรงสำหรับใครหลาย ๆ คน และยิ่งมีความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอคลิปแต่ละครั้ง ยิ่งสร้างฐานแฟนคลับให้เหนียวแน่นมากขึ้นไม่ยาก

Youtuber เริ่มเป็นอาชีพที่หลายคนให้ความสนใจ

อาชีพ Youtuber ถือว่ากำลังมาแรงไม่น้อย เพราะปัจจุบันมีคนดังหลายคนเติบโตมาจากการทำช่องยูทูป อีกทั้งอาชีพนี้ยังทำรายได้ให้เจ้าของช่องยูทูปได้ในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากจำนวนการเข้าชม หรือสปอนเซอร์ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ปัจจุบันเราจะได้เห็นคนทำคอนเทนต์ต่าง ๆ ผ่านยูทูปมากขึ้น

ปัจจุบันมียูทูปเบอร์แจ้งเกิดมากมาย แต่มี 5 คนที่ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง

คนทำคอนเทนต์ในยูทูปหรือที่เรียกว่า Youtuber ในปัจจุบันมีหลายคนด้วยกัน และแต่ละคนถือว่าเป็นคนดังที่ทำรายได้จากการทำช่องระดับเซเลป และบางครั้งยังได้รับโอกาสให้เข้าสู่เส้นทางวงการบันเทิงอีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นสำหรับยูทูปเบอร์ที่คุ้นหน้าคุ้นกันอย่างดีมีไม่กี่คน แถมบางคนยังได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งการทำช่องอีกด้วย ส่วนในอนาคตเชื่อว่าเราจะได้เห็นเจ้าของช่องต่าง ๆ ในยูทูปเพิ่มขึ้นแน่นอน

โดย 5 อันดับคนที่กำลังมาแรงสุด ๆ ในช่องยูทูป คือ

1. KAYKAI SALAIDER

เจ้าของช่องแห่งความสนุกสนานที่หลายคนติดตามมานานถือว่าเป็นสาวน้อยมากความสามารถสุด ๆ โดยเธอมีชื่อจริงว่า ณัฐธิชา แซ่จง มีชื่อเล่นตรงตามช่องของเธอคือ “เก๋” โดยเธอเริ่มทำช่องมาตั้งแต่เรียนปี 2 ซึ่งปัจจุบันมีผู้ติดตามเธออยู่ที่ 15.2 ล้านคน ด้วยคอนเทนต์ที่สนุก และมีสีสัน ชวนให้ติดตามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าเจ้าแม่ Youtuber ของจริง เพราะยังไม่มีใครสามารถล้มสถิติของเธอได้เลย

2. ZBING Z

อาจจะบอกว่าเธอคือเจ้าแม่ Youtuber แห่งการแคสเกมที่มาพร้อมกับน้ำเสียงอ่อนหวาน สุภาพเรียบร้อย เธอคนนี้ชื่อมีจริงว่า นัยรัตน์ ธนไวทย์โกเศส หรือ “แป้ง” ส่วนตอนนี้มีผู้ติดตามช่องของเธอมากถึง 13.8 ล้านคน อย่างไรก็ตามกว่าเธอจะมาถึงจุดนี้ได้เรียกว่าไม่ง่ายเลย แต่เพราะเป็นคนชอบเล่นเกมอยู่แล้ว ทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายไปในทันที ซึ่งถือว่าเป็นทางที่ใช่สำหรับสาวสวยคนนี้มากจริง ๆ

3. BIE THE SKA

สำหรับคนดังคนนี้เชื่อว่าน้อยคนจะไม่รู้จักเขากับท่าเต้นจอมยียวนที่จะทำให้คุณหัวเราะไม่หยุด มาพร้อมกับเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เขามีผู้ติดตามมากถึง 12.7 ล้านคน นอกจากนั้นคอนเทนต์ของเขาที่ลงในยูทูปยังมีเรื่องราวแปลก ๆ ล้อเลียนคนดังมาให้แฟน ๆ ได้หัวเราะอารมณ์ดีไปกับ Youtuber คนนี้บ่อย ๆ

4. MY MATE NATE

เจ้าของช่องนี้มีชื่อจริงว่า “เนท บาร์ทลิ่ง หรือ นาธาน” หนุ่มจากแดนมะกัน เข้ามาอยู่ในไทยตั้งแต่ปี 2556 ส่วนคอนเทนต์ของเขามักสร้างกระแสดราม่ามากกว่าแบบอื่น ด้วยวิธีแกล้งคน ทำให้เขามีชื่อเสียงมาจนถึงทุกวันนี้ โดย Youtuber คนนี้ยังเคยแสดงความคิดเห็นส่วนตัวว่า คลิปทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่มีใครโกรธเขาเลย อีกทั้งเชื่อว่าคนไทยชอบถูกแกล้ง อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีกระแสดราม่าหนักแค่ไหน แต่ปัจจุบันเขากลับมีผู้ติดตามสูงถึง 10.3 ล้านคน

5. ครูนกเล็ก

คุณครู Youtuber ของโรงเรียนบางมด มีชื่อจริงว่า “จีรภัทร์ สุกางโฮง” ซึ่งมีชื่อเล่นว่า “ครูนกเล็ก” เป็นคนที่ใส่ใจการเรียนการสอนของนักเรียนอย่างมาก โดยการจับเอาเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเป็นสื่อการสอนให้เข้าถึงง่าย ใส่เพลงสนุก และเลือกดนตรีให้เข้ากับยุคปัจจุบัน เพื่อให้เด็ก ๆ สนุกไปด้วย ส่งผลให้ปัจจุบันช่องการเรียนการสอนธรรมดาตามความตั้งใจของเธอมีผู้ติดตามมากถึง 8.98 ล้านคนเรียบร้อยแล้ว

Youtuber เป็นอีกหนึ่งช่องทางอาชีพทำเงินของใครหลายคน ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางที่หลายคนให้ความสนใจอย่างมาก แต่ไม่ได้หมายถึงว่าการทำช่องจะเป็นเรื่องง่ายเสมอไป เพราะบางคนกว่าจะมาไกลถึงระดับนี้ได้เหนื่อยเอาเรื่องไม่น้อย แต่เมื่อประสบความสำเร็จในอาชีพนี้ทำรายได้ให้นักยูทูปเบอร์ไม่น้อยเหมือนกัน

ซีรีส์ คือสื่อวิดีโอที่ถูกถ่ายทำและแบ่งย่อยออกเป็นตอน ซึ่งอาจจะมากกว่า 30 ตอน และแบ่งย่อยออกเป็นตอนละ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย กับการสร้างสื่อเพื่อให้คอซีรีส์ติดหนึบและไม่เลิกติดตามไปกลางทาง

เดอะเบสผู้ผลิต ซีรีส์ คือ ประเทศเกาหลี

ถ้าพูดถึงซีรีส์คงต้องยกมือให้ทางเกาหลีมาเป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากบทต้องปัง นักแสดงต้องเป๊ะ ความสมจริงต้องมา จนเหมือนเป็นสารคดีขนาดย่อมเลยก็ว่าได้ แม้แต่ซีรีส์เกี่ยวกับอาชีพหมอยังทำออกมาได้สมจริงทนแทบมองไม่ออกว่าหลาย ๆ ฉาก รวมถึงสถานที่เป็นแค่สิ่งที่สร้างขึ้นมาเพื่อถ่ายทำเท่านั้น

ความสมจริงของซีรีส์หมอ ที่ทำให้คนดูลุกจากจอไม่ได้

เรื่องราวเกี่ยวกับอาชีพหมอของทางเกาหลี เป็นการถ่ายทอดอาชีพระดับสากล ผ่านหน้าจอซึ่งถือว่าทำได้ดีมากทีเดียว เพราะสามารถรู้ได้ทันทีว่า อาชีพหมอทำงานที่ไหนและมีไว้เพื่ออะไร ซึ่งซีรีส์เกี่ยวกับหมอก็จี้จุดได้เก่งพอสมควร

ดังนั้นมาดูกันต่อว่า 5 ซีรีส์อาชีพหมอ ซึ่งได้ชื่อว่าสนุกจนลุกไปไหนไม่ได้ มีเรื่องอะไรกันบ้าง

1. Good Doctor 

เรื่องนี้ถูกซื้อลิขสิทธิ์นำไปสร้างใหม่หลายเวอร์ชั่นและหลายประเทศ โดยในเรื่องจะเล่าถึงตัวของพระเอกที่เป็นออทิสติกแต่มีพรสวรรค์ในการจินตนาการเรื่องรักษา ซึ่งแน่นอนว่าแม้จะเป็นอัจฉริยะ แต่การเป็นออทิสติกเป็นเรื่องยากที่ผู้ป่วยให้ความเชื่อมั่น ซึ่งทำให้เขาต้องพยายามสร้างความมั่นใจให้ทุกคนอย่างหนัก ความสนุกของเรื่องนี้คือความมั่นใจและความมุ่งมั่นของพระเอก รวมถึงเรื่องมักหลอกให้เราคิดว่าบางเรื่องอาจจะผิดก็ได้

2. Hospital Playlist 

การตัดสินใจเมินเรื่องนี้เท่ากับว่าคุณพลาดมาก เพราะเนื้อเรื่องที่นำเสนอให้ความรู้สึกอบอุ่นและสนุก ภายในเรื่องเดียว โดยเรื่องนี้เกี่ยวกับการเล่าเรื่องของหมอ 5 คน วัยเดียวกันและเป็นเพื่อนกัน เพราะจบจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน แถมยังได้มาทำงานที่โรงพยาบาลเดียวกันอีก อย่างไรก็ตามแต่ละคนมีความถนัดของตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้ให้ความรู้สึกทั้งเศร้า ทั้งหัวเราะ บางทีก็ยิ้มออกมาไม่รู้ตัว นอกจากเนื้อเรื่องจะสนุกแล้วเพลงประกอบยังเพราะมากอีกด้วย

3. Doctor Prisoner

เป็นซีรีส์ที่เนื้อเรื่องค่อนข้างแปลกและเปิดโลกมาก แม้พระเอกเป็นหมอ แต่สถานทำงานของเขาไม่ใช่โรงพยาบาลกลับเป็นเรือนจำ โดยเนื้อเรื่องนี้สนุกและให้ลุ้นมาก มีชิงไหวชิงพริบทุกตอน เราจะได้เห็นความเทาของคนเป็นหมอ ซึ่งแม้แต่พระเอกก็มีด้านนี้อยู่ในตัว ซึ่งการนำเสนอเรื่องนี้ออกมาแสดงให้เห็นว่า แม้แต่ในคุกยังมีลำดับชั้น รวมถึงผู้ที่มีอำนาจแท้จริงอาจไม่ใช่คนที่มีอำนาจ 

4. Partners for justice 

เป็นการเล่าเรื่องของหมอชันสูตรศพ ผู้มีเอกลักษณ์คือไม่อยู่ฝ่ายไหน แถมยังปากร้ายเหมือนไม่ใช่คนดี มีของทุกสิ่งในกระเป๋าส่วนตัว มักมีคำพูดติดปากบ่อย ๆ ว่า “ศพไม่เคยหลอกใคร” และเมื่อเจอหลักฐานที่ยากจะสืบมักจะพูดว่า “ต้องถามมากกว่าว่าทำไมสิ่งนี้จึงไปอยู่ที่นั่น” บ่อยครั้งที่เขาถูกหาว่าเป็นคนทรยศ เพราะมักจะไปให้ปากคำกับทนายของคนร้าย ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับนางเอกที่เป็นอัยการ ว่าไปแล้วเรื่องนี้เป็นทั้งแนวหมอและสืบสวนสอบสวนเลยก็ว่าได้ ซึ่งอยากจะย้ำว่าไม่ควรพลาด

5. Doctors

เรื่องนี้จะออกแนวรักหวานเจี๊ยบ แม้พระเอกกับนางเอกจะเคยเป็นลูกศิษย์กับอาจารย์ แต่เมื่อความเป็นอาจารย์ลูกศิษย์จบลง หมอกับอาจารย์หมอจึงทำให้สถานะใหม่ของทั้ง 2 ฝ่าย เกิดขึ้นในที่สุด โดยเรื่องนี้เรียกได้ว่าฟินจิกหมอนและน้ำตาร่วงได้ในเรื่องเดียวแน่นอน

ทั้งนี้คำเตือนสำหรับคนที่กลัวเลือดซีรีส์ทุกเรื่องมีฉากผ่าตัด ดังนั้นข้อนี้ต้องรู้และต้องทำใจก่อนจะดู หรือแม้แต่การพิสูจน์หลักฐานสมจริงสุด ๆ แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวจนดูต่อไม่ได้ ซึ่งถือว่าเป็นการทำละครตอนยาวออกมาได้ดี เนื่องจากได้ประโยชน์ต่อคนที่ต้องการเรียนแพทย์ รวมถึงยังนำบางหลักการไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย นอกจากนั้นเนื้อเรื่องยังกระตุ้นในคนดูมีความรู้สึกร่วม รวมถึงอินไปกับตัวละครทุกตัวอย่างแยบยลอย่างมาก

สนาม ฟุตบอล ในปัจจุบันมีการแข่งขันกันเล็ก ๆ เหมือนกัน ซึ่งแต่ละสนามพยายามสร้างความยิ่งใหญ่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังมีความทันสมัย และได้ชื่อว่าเป็นสนามที่ดีที่สุดในโลกอีกด้วย ทำให้การมาลงสนามแข่งขัน ช่วยเพิ่มความสนุกให้เกมแข่งขันได้มากขึ้น

สนามฟุตบอลหลายแห่งต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับแฟนบอล 

สนาม ฟุตบอล ของแต่ละสโมสรรวมถึงประจำประเทศนั้น ๆ ต่างต้องการสร้างความยิ่งใหญ่ ด้วยการขยายสนาม หรือบางแห่งตัดสินใจเปลี่ยนพื้นที่สร้างสนามเหย้าของแต่ละสโมสรใหม่ เพื่อเพิ่มจำนวนแฟนบอลที่เข้าชมเกมในสนามแข่งขัน อีกทั้งต้องเพิ่มความสะดวกสบายต่าง ๆ ไปพร้อมกัน

ในปัจจุบันสนามแข่งขันที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสนามที่ดีที่สุดในโลกถึง 5 สนาม

ซึ่งสโมสรลูกหนังชั้นนำหลายแห่งในวงการลูกหนัง ในปัจจุบันมีสนามเหย้าที่ดีพอ รองรับการมาเยือนของคู่แข่งได้อย่างดี จนกระทั่งมีรางวัล สนามฟุตบอล หญ้าสวยที่สุดเกิดขึ้น เพราะสนามสวยย่อมส่งผลดีต่อการแข่งขัน และสำหรับสนามที่ดีที่สุดติดท็อป 5 ของโลก ในตอนนี้ เป็นของสโมสรชั้นนำในวงการลูกหนังถึง 3 ลีกใหญ่ยุโรป นั่นก็คือ บุนเดสลีก เยอรมัน, พรีเมียร์ลีก อังกฤษ รวมถึง ลาลีกา สเปน 

โดย 5 อันดับสนามฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกมีดังนี้

1. สนามเวมบลีย์

สนามฟุตบอลแห่งชาติของประเทศอังกฤษ ออกแบบโดย บริษัท ฟอสเตอร์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ และ ป็อบปูลูออส โดยสนามแห่งนี้เป็นสนามที่ใช้เงินก่อสร้างมากที่สุด เนื่องจากใช้เงินไปมากถึง 798 ล้านปอนด์ โดยเป็นสนามที่มีหลังคาใหญ่ที่สุดในโลก จากนั้นมีการขยายสนามรองรับแฟนบอลเข้าชมเกมแข่งขันมากถึง 90,000 คน โดยเปิดทำการในปี 17 มีนาคม 2007 ซึ่งเป็นสนามที่ใช้สำหรับแข่งขันรายการใหญ่ ๆ ระดับชาติ อาทิเช่น ยูโร, เอฟ เอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ 

2. สนามอัลลิอันซ์อารีน่า 

สนามเหย้าของแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมัน 31 สมัย อย่าง บาเยิร์น มิวนิค ถือว่าเป็นสนามที่ดีที่สุดและเป็นสนามที่ใหญ่ที่สุดติดอันดับท็อป 5 ของโลก โดยสนามแข่งขันสามารถรองรับแฟนบอลได้มากถึง 70,000 คน โดยความแตกต่างของสนามแห่งนี้คือ สีไฟในสนามแข่งขัน ซึ่งสามารถเปลี่ยนสีได้ในเวลากลางคืน ทำให้มีความสวยงามอย่างมากเมื่อเข้าชม 

3. สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด 

สนามเหย้าของ “ปีศาจแดง” หรือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรระดับแถวหน้าจากเวทีสูงสุดของอังกฤษ นั่นก็คือ พรีเมียร์ลีก ซึ่งรู้จักกันดีในชื่อของ โรงละครแห่งความฝัน ซึ่งถือว่าเป็นทีมที่มีนักเตะดาวรุ่งหลายคนหวังจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของทีมมาโดยตลอด จุแฟนบอลได้ทั้งหมด 74,140 คน อีกทั้งมีความสะดวกสบาย รวมถึงพื้นหญ้าเทียมที่สวยที่สุดในอังกฤษ อีกด้วย หลังจากเคยได้รับรางวัลหญ้าสวยที่สุดในอังกฤษเป็นรางวัลยืนยันมาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา

4. สนามคัมป์นู 

สนามเหย้าของ บาร์เซโลน่า ทีมดังจากเวทีลาลีกา สเปน และยังเป็นสนามใหญ่ที่สุด ติดท็อปโฟร์ ในสเปนอีกด้วย ซึ่งสนามแห่งนี้ถือว่าเป็นสนามที่นักเตะดาวรุ่งและหลาย ๆ คนฝันอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของทีมดังกล่าว หลังจากได้รับการยกย่องว่าเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดติดระดับท็อปของโลก โดยสนามแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นสนามที่ มีความสง่างาม อีกทั้งเป็นสนามที่สร้าง ลีโอเนล เมสซี่ หัวหอกชาวอาร์เจนไตน์ขึ้นมาสู่วงการลูกหนัง และเป็นไอดอลของใครหลายคนอีกด้วย โดยสนามแห่งนี้บรรจุแฟนบอลได้มากถึง 99,354 คน 

5. สนามเอสตาดิโอแอซเตก้า 

สนามกีฬาชื่อดังของประเทศเม็กซิโก ซึ่งที่นี่มีความสำคัญต่อรายการฟุตบอลโลก หรือ เวิลด์คัพ ถึง 2 ครั้งด้วยกัน นั่นก็คือในปี 1970 และ ในปี 1986 โดยที่นี่มีนักเตะคนดังระดับโลกและเป็นตำนานตลอดกาลของวงการลูกหนังอย่าง ดีเอโก้ มาราโดน่า ตำนานหัวหอกชาวอาร์เจนไตน์ ผู้ล่วงลับ และ เปเล่ ตำนานหัวชาวบราซิเลียน ซึ่งทั้งคู่เคยชูถ้วยแชมป์รายการดังกล่าว ณ สนามแห่งนี้มาก่อน โดยปัจจุบันสนามแห่งนี้สามารถรองรับผู้ชมได้ถึง 87,523 คนด้วยกัน

ทั้ง 5 สนามที่ถูกจัดอันดับไปข้างต้น ทำให้การแข่งขันเกมกีฬายอดนิยมของคนทั่วโลก ดำเนินและผ่านพ้นไปด้วยดี นอกจากรองรับแฟนบอลเข้าชมเกมได้มากแล้ว ยังเป็น สนามบอล ที่หลายคนบอกตรงกันว่าดีที่สุดในโลกอีกด้วย และในปัจจุบันยังคงใช้งานในเกมแข่งขันต่าง ๆ เหมือนเดิม

เว็บตรง ไม่ผ่านเอเย่นต์